สถานะ : ปิดรับฟังความคิดเห็น รายงานผลการรับฟังความคิดเห็น
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย นายชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับคณะ เป็นผู้เสนอ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

โดยที่การกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 มีมูลค่าสูงถึงหนึ่งล้านล้านบาท การใช้เงินที่กู้มาก็กระทำในเวลาจำกัด จำเป็นต้องให้ดำเนินไปโดยโปร่งใส เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง จึงควรสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนโดยให้มีกรรมการผู้สังเกตการณ์จากสภาผู้แทนราษฎรในคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ให้รายงานการกู้เงินและ
การใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดต่อรัฐสภาทุกสามเดือน และให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาร้องขอข้อมูลการกู้เงินและการใช้เงินเพื่อประโยชน์ของการตรวจสอบได้

สาระสำคัญ

          แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 โดยมีสาระสำคัญดังนี้

          1. กำหนดให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ประกอบด้วย เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นประธานกรรมการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรรมการผู้สังเกตการณ์ จำนวน 4 คน และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกิน 4 คนเป็นกรรมการ ให้รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคนหนึ่งซึ่งเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมายเป็นเลขานุการ และผู้แทนสำนักงบประมาณและผู้แทนสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เป็นผู้ช่วยเลขานุการร่วม โดยให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับผิดชอบงานวิชาการและธุรการของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้

          ให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคการเมืองซึ่งสมาชิกดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายหนึ่ง จำนวนสองคน และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

          2. กำหนดให้กระทรวงการคลังรายงานการกู้เงินตามพระราชกำหนดนี้ที่กระทำในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้รัฐสภาทราบทุกสามเดือนนับแต่วันที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภามีสิทธิเข้าชื่อร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินและการใช้เงินต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้องส่งคำร้องนั้นไปยังกระทรวงการคลัง และให้กระทรวงการคลังส่งข้อมูลที่ถูกร้องขอไปยังประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้องภายใน 10 วัน

 

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

  1. กระทรวงการคลัง
  2. สำนักงบประมาณ
  3. สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  4. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  5. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
  6. ประชาชนทั่วไป

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

          1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่าสมควรกำหนดให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรสโคโรนา 2019

          2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการเพิ่มหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณาให้ความเห็นชอบกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรสโคโรนา 2019

          3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการเพิ่มหน้าที่และอำนาจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาให้สามารถร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับการกู้เงินและการใช้เงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรสโคโรนา 2019 ต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก

          4. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้กระทรวงการคลังรายงานการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 ที่กระทำในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้รัฐสภาทราบทุก 3 เดือน นับแต่วันที่พระราชกำหนดฉบับนี้ใช้บังคับ

          5. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ (ถ้ามี)