สถานะ : ปิดรับฟังความคิดเห็น รายงานผลการรับฟังความคิดเห็น
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดการประมง พ.ศ 2558 พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย นายวรภพ วิริยะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

โดยที่พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ได้มีการตราขึ้นใช้บังคับอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาอันเนื่องมาจากผลกระทบที่ร้ายแรงของการทำประมงที่ผิดกฎหมายซึ่งอาจนำไปสู่การถูกขึ้นบัญชีหรือใบเหลืองของสหภาพยุโรป (อียู) หรืออาจจะถูกปรับขึ้นเป็นใบแดง จึงจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและตอบสนองให้เห็นถึงความตั้งใจของประเทศไทยที่พยายามแก้ไขปัญหา จึงได้ตราเป็นพระราชกำหนดเพื่อให้สามารถบังคับใช้ได้ทันที อย่างไรก็ดี พระราชกำหนดดังกล่าวมีบทบัญญัติบางมาตราที่อาจจะขัดต่อหลักการของอนุสัญญาประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก หรือหลักสิทธิมนุษยชนและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินและสิทธิในการประกอบอาชีพของประชาชน การเลือกปฏิบัติ ขาดความเสมอภาค และบังคับใช้กฎหมายโดยไม่เท่าเทียมกัน รวมทั้งมีบทกำหนดโทษที่ไม่เป็นธรรม ซ้ำช้อน และไม่ได้สัดส่วนกับการลงโทษในความผิดทั่วไป เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและชาวประมงผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม ตลอดจนส่งเสริมการทำประมงให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการจัดให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบและพิจารณาลงโทษ และคณะกรรมการมาตรการทางปกครองในการพิจารณาออกคำสั่งตามระดับความรุนแรงของการกระทำความผิด สภาพการกระทำผิด และการกระทำความผิดซ้ำ ตลอดจนกำหนดโทษทางปกครองและโทษทางอาญาที่เหมาะสม เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพและป้องกันการกระทำผิด จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

 

สาระสำคัญ

แก้ไขเพิ่มเติมพระราชการกำหนดการประมง พ.ศ 2558 ดังต่อไปนี้

          1. แก้ไขเพิ่มเติมเจตนารมณ์ของกฎหมายให้เกิดความชัดเจนและครอบคลุมกิจการประมง และการจัดระเบียบการประมงในประเทศไทยและรองรับการจัดระเบียบการประมงทะเลในน่านน้ำอื่นภายใต้กติการะหว่างประเทศ ทั้งในฐานะของรัฐชายฝั่ง รัฐเจ้าของธง รัฐเจ้าของท่า และรัฐเจ้าของตลาด เพื่อป้องกันมิให้มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยเจตนา เพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่ในภาวะที่เป็นแหล่งอาหารของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมให้ดำรงอยู่ในสภาพที่เหมาะสมตามแนวทาง กฎเกณฑ์และมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับนับถือในนานาประเทศ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการที่ถูกต้องตามกฎหมายให้ได้รับความสะดวก และได้รับการคุ้มครองในการประกอบอาชีพ

          2. แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า "ทะเลชายฝั่ง" "ทะเลหลวง" และยกเลิกนิยามคำว่า "โรงงาน"                   

          3. แก้ไขเพิ่มเติมการออกกฎกระทรวงของรัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชกำหนดนี้ ให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงได้เฉพาะที่พระราชกำหนดนี้บัญญัติให้ต้องออกเป็นกฎกระทรวงเท่านั้น

          4. แก้ไขเพิ่มเติมการใช้อำนาจของรัฐไทยกรณีความผิดตามพระราชกำหนดนี้ที่เกิดขึ้นนอกน่านน้ำไทยซึ่งการกระทำความผิดนั้นมิใช่เรือประมงไทย และในกรณีที่มีเรือประมงกระทำความผิดในน่านน้ำไทยซึ่งได้หลบหนีไปยังรัฐชายฝั่งอื่น

          5. แก้ไขเพิ่มเติมการรวบรวมสถิติการประมงและการเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อทราบ

          6. ยกเลิกมาตราที่เกี่ยวข้องกับโรงงานภายใต้พระราชกำหนดนี้

          7. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการประมงแห่งชาติ

          8. แก้ไขเพิ่มเติมกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 13 ให้เกิดความชัดเจนทั้งผู้แทนสมาคมการประมงและนักวิชาการ

          9. ยกเลิกลักษณะต้องห้ามของผู้ทรงคุณวุฒิ

          10. แก้ไขเพิ่มเติมวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นคราวละสามปี

          11. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด

          12. แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการคัดเลือกตัวแทนองค์กรชุมชนส่วนท้องถิ่น

          13. แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดในการออกประกาศ         

          14. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้จะทำการประมงน้ำจืดในที่จับสัตว์น้ำที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินในเขตพื้นที่แต่ละจังหวัด ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด และกำหนดให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการการทำประมงน้ำจืดให้กับผู้ได้รับอนุญาต

          15. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ใดจะทำการประมงทะเลชายฝั่งในเขตพื้นที่แต่ละจังหวัดต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดมอบหมาย                   

          16. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ทำการประมงพื้นบ้านต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการในการทำการประมงตามที่คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดประกาศกำหนด และต้องจัดทำสมุดบันทึกการทำการประมงด้วย

          17. แก้ไขเพิ่มเติม โดยยกเลิกการห้ามผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านทำการประมงในเขตทะเลนอกชายฝั่ง

          18. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้จะทำการประมงทะเลนอกชายฝั่งและประมงทะเลนอกน่านน้ำไทย ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ และให้คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการทำประมงทะเลนอกชายฝั่งและประมงทะเลนอกน่านน้ำไทย

          19. กำหนดห้ามออกใบอนุญาตให้กับเรือประมงที่มีลักษณะต้องห้าม

          20. แก้ไขเพิ่มเติมการดัดแปลงเครื่องมือทำการประมงให้ผิดไปจากลักษณะของเครื่องมือที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ให้สามารถกระทำได้หากได้จดแจ้งกับกรมประมงแล้ว

          21. แก้ไขเพิ่มเติมข้อยกเว้นในการห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทยและกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย รับจดทะเบียนเรือหรือออกใบอนุญาตใช้เรือสำหรับการประมง           

          22. แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตทำการประมงนอกน่านน้ำไทย โดยแยกผู้ขอรับใบอนุญาตในแต่ละพื้นที่ทั้งในเขตของรัฐชายฝั่งอื่นและทะเลหลวงให้ชัดเจน

          23. แก้ไขเพิ่มเติมในกรณีที่กฎหมาย หลักเกณฑ์ และมาตรการการอนุรักษ์และบริหารจัดการการประมงของรัฐชายฝั่งหรือองค์การระหว่างประเทศที่บังคับใช้กับผู้รับใบอนุญาตทำประมงนอกน่านน้ำไทยนั้นขัดหรือแย้งกับพระราชกำหนดนี้ ให้งดเว้นการใช้พระราชกำหนดนี้กับผู้รับใบอนุญาตดังกล่าว          

          24. แก้ไขเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตทำการประมงนอกน่านน้ำไทยทำการประมงในเขตรัฐชายฝั่งอื่น ที่กำหนดการมีผู้สังเกตการณ์หรือไม่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐชายฝั่งนั้นกำหนด

          25. แก้ไขเพิ่มเติมการห้ามจับสัตว์น้ำวัยอ่อน หรือครอบครองสัตว์น้ำวัยอ่อนตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

          26. กำหนดเงื่อนไขก่อนการออกประกาศตามมาตรา 56 และมาตรา 57

          27 แก้ไขเพิ่มเติมการห้ามมิให้ล่าสัตว์น้ำชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์เพื่อการค้า ตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด หรือนําสัตว์น้ำดังกล่าวขึ้นเรือประมงเพื่อการค้า เว้นแต่กรณีมีความจําเป็นเพื่อการช่วยชีวิตของสัตว์น้ำนั้น ไม่ถือว่าเป็นความผิด และในกรณีที่มีการติดอวนขึ้นมาโดยไม่เจตนา ให้รีบปล่อยสัตว์น้ำนั้น คืนสู่ท้องทะเลโดยเร็ว

          28. แก้ไขเพิ่มเติมการห้ามใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้ซึ่งเครื่องมือทำการประมง โดยอนุญาตให้มีเครื่องมือโพงพางได้ และยกเลิกข้อยกเว้นตามวรรคสามและวรรคสี่เดิม

          29. แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ใช้เครี่องมืออวนรุนเคยที่ใช้ประกอบเรือยนต์ทำการประมงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดประกาศกำหนด

          30. แก้ไขเพิ่มเติมข้อห้ามการใช้เครื่องมืออวนล้อมจับในเวลากลางคืน

          31. แก้ไขเพิ่มเติมให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกประกาศเพื่อกำหนดเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดในเขตทะเลชายฝั่งที่ทับซ้อนกันเพื่อให้มีความชัดเจน

          32. แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่ของเจ้าของเรือประมงไทยที่มีขนาดตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดเมื่อต้องการนำเรือออกจากท่าเพื่อไปทำการประมง ต้องดำเนินการ

          33. แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่ของเจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือต้องนำเอกสารเกี่ยวกับทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ ใบอนุญาตให้ทำการประมง และหลักฐานเกี่ยวกับการจัดระบบความปลอดภัยสุขอนามัย และสวัสดิภาพในการทำงานของคนประจำเรือตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยลดจำนวนเอกสารลงเหลือเท่าที่จำเป็นและเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง

          34. แก้ไขเพิ่มเติมการมีหนังสือคนประจำเรือของเรือประเภทต่าง ๆ

          35. แก้ไขเพิ่มเติมการรับคนประจำเรือหรือลูกเรือจากเรือประมงอื่น และรับฝากคนประจำเรือหรือลูกเรือที่มีใบอนุญาตและหนังสือประจำตัวแล้ว ออกไปกับเรือเพื่อนำส่งให้กับเรือประมงลำอื่นที่ได้รับอนุญาตแล้วให้สามารถกระทำได้ ในกรณีมีเหตุอันจำเป็น และได้แจ้งต่อศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกแล้ว               

          36. แก้ไขเพิ่มเติมการขนถ่ายสัตว์น้ำในทะเลไปยังเรือประมงให้สามารถกระทำได้ แต่ต้องจดแจ้งกับศูนย์การแจ้งเรือเข้าออกเรือประมงก่อน

          37. แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่ของเจ้าของเรือขนถ่ายสัตว์น้ำที่มีสัญชาติอื่นที่มิใช่สัญชาติไทย และมีขนาดตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ต้องดำเนินการ

          38. แก้ไขเพิ่มเติมให้อธิบดีมีอำนาจออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ การวางหลักประกัน และเงื่อนไขให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ให้บริการระบบติดตามเรือได้ปฏิบัติได้ และให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ให้บริการระบบติดตามเรือต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ในกรณีที่ระบบติดตามเรือประมงเกิดข้อขัดข้องจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับทางราชการหรือเจ้าของเรือที่ติดตั้งอุปกรณ์

          39. แก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขการนำเข้าสัตว์น้ำโดยเรือขนถ่ายสัตว์น้ำหรือเรือประมง โดยต้องดำเนินการตามที่กำหนด

          40. แก้ไขเพิ่มเติมการห้ามมิให้ผู้ใดนำเรือประมงที่มิใช่เรือประมงไทย ที่มีการทำการประมงโดย
ไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร ต้องเป็นไปตามรายชื่อที่ประกาศโดยรัฐต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ

          41. แก้ไขเพิ่มเติมให้เรือประมงที่มิใช่เรือประมงไทยที่ประสงค์จะนำสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเข้ามาในราชอาณาจักร จะต้องแจ้งข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรือ รายละเอียดของสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและวัตถุประสงค์ของการนำสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเข้ามาในราชอาณาจักร ล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสี่สิบแปดชั่วโมง รวมทั้งกำหนดให้กรณีมีการอนุญาตให้เข้าเทียบท่าได้ หากมีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยของคนประจำเรือหรือตัวเรือประมง ให้เรือแก้ไขเหตุสุดวิสัยหรือเหตุฉุกเฉินนำเรือออกนอกราชอาณาจักรโดยเร็ว

          42. แก้ไขเพิ่มเติมการอนุญาตให้นำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำโดยเรือประมงต่างชาติว่าจะต้องเป็นเรือประมงที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัฐเจ้าของธง รวมทั้งเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่กำหนด                     

          43. แก้ไขเพิ่มเติมโดยกำหนดปริมาณการนำเข้าสัตว์น้ำของเรือประมงที่ทำการประมงพื้นบ้านซึ่งรัฐเจ้าของธงที่มีอาณาเขตติดต่อกับราชอาณาจักรไทยโดยไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 95 และมาตรา 96 ทั้งหมด หรือบางส่วนก็ได้ ให้มีปริมาณวันละไม่เกินสองร้อยกิโลกรัม

          44. กำหนดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีอำนาจในออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไข ระเบียบ และข้อปฏิบัติ ตลอดจนมาตรการในการตรวจสอบการดำเนินการของประเทศต่าง ๆ ที่มีการส่งออกสัตว์น้ำของตนมายังประเทศไทย ว่าได้มีการบริหารและจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำและใช้ประโยชน์ที่สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศหรือไม่ เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ในประเทศที่มีการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำมายังประเทศไทยตลอดจนการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำและใช้ประโยชน์ที่สอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการนั้น             

          45. กำหนดให้รัฐมนตรี มีอำนาจในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดนี้ และให้แต่งตั้งบุคคลจากผู้มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจและมีอำนาจหน้าที่ในการรับผิดชอบเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

          46. แก้ไขเพิ่มเติมวิธีดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เกิดความชัดเจนและให้ผู้ฝ่าฝืนสามารถวางประกันสัตว์น้ำได้

          47. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องคำนึงถึงหน้าที่และอำนาจของรัฐไทยในฐานะของรัฐชายฝั่ง รัฐเจ้าของธง รัฐท่าเรือ และรัฐเจ้าของตลาด ตามอนุสัญญาและพันธกรณีระหว่างประเทศ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้

          48. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติราชการที่กำหนดไว้เฉพาะกรณี และให้อธิบดีจัดทำคู่มือการปฏิบัติราชการเฉพาะกรณีต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยึดถือและปฏิบัติ 

          49. กำหนดห้ามมิให้มีการจ่ายเงินรางวัลนำจับตามพระราชกำหนดนี้

          50. กำหนดให้อำนาจการฟ้องคดีตามพระราชกำหนดนี้ ในกรณีที่มีการกระทำความผิดในเขตน่านน้ำไทยให้เป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการตามท้องที่ที่มีการฝ่าฝืนพระราชกำหนดนี้ หรือตามที่อัยการสูงสุดกำหนด

          51. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 10 มาตรการทางปกครอง เพื่อให้การปฏิบัติตามพระราชกำหนดนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการใช้โทษอาญาที่ได้กำหนดไว้ในหมวด 11 บทกำหนดโทษ และเพื่อกำหนดการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ถือเป็นการผ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรงให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและบริบทการทำการประมงของไทย

          52. แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 11 บทกำหนดโทษ เพื่อกำหนดโทษทางอาญาให้เหมาะสมเกิดความเป็นธรรม และได้สัดส่วนกับการกระทำความผิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายตามพระราชกำหนดนี้มีประสิทธิภาพ และป้องปรามการฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย รวมทั้งการป้องกันไม่ให้ผู้กระทำความผิดได้รับประโยชน์จากการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดนี้

          53. กำหนดบทเฉพาะกาล เพื่อรองรับคำขออนุญาตที่ค้างพิจารณา อยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นคำขออนุญาตที่ได้ยื่นตามพระราชบัญญัตินี้ ตลอดจนบรรดาใบอนุญาตที่ออกให้ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 อยู่ก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังมีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุการอนุญาตหรือใบอนุญาตนี้

          54. กำหนดบทเฉพาะกาล ให้บรรดาคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ศาล คณะกรรมการมาตรการทางปกครอง หรือคณะกรรมการเปรียบเทียบ แล้วแต่กรณี มีอำนาจพิจารณาดำเนินการต่อไปจนเสร็จสิ้น และให้นำกฎหมายซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับมาใช้บังคับจนกว่าคดีนั้นจะถึงที่สุด

          55. กำหนดบทเฉพาะกาล ให้บรรดาพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่งที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการประมงที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ หากพ้นระยะเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่พระราชบัญญัตินี้บังคับใช้แล้ว ไม่มีการออกกฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่งใหม่ขึ้นบังคับใช้ให้กฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ หรือคำสั่งนั้น เป็นอันยกเลิก

          56. กำหนดบทเฉพาะกาลให้บรรดาพระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบ ที่ต้องออกตามกฎหมายว่าด้วยการประมงที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และที่ต้องออกตามกฎหมายว่าด้วยการประมงเมื่อพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้บังคับใช้

          57. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตรรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

  1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  2. กระทรวงการต่างประเทศ
  3. กระทรวงคมนาคม
  4. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  5. กระทรวงมหาดไทย
  6. สภาเกษตรแห่งชาติ
  7. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
  8. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
  9. สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย
  10. สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย
  11. สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย
  12. สมาคมส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและส่งออกไทย
  13. สมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาไทย
  14. สมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย
  15. ประชาชน

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

  1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายนี้ทำให้มีความชัดเจนและครอบคลุมกิจการประมงในประเทศไทยหรือไม่
  2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายนี้เป็นการจัดระเบียบการประมงในประเทศไทยและรองรับการจัดระเบียบการประมงทะเลในน่านน้ำอื่นภายใต้กติการะหว่างประเทศ และนำไปสู่การแก้ปัญหาการขึ้นบัญชีหรือใบเหลืองของสหภาพยุโรป (อียู)
  3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่ากฎหมายนี้มีขึ้นเพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำ และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศไทย
  4. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ว่ากฎหมายนี้มีขึ้นเพื่อส่งเสริม สนับสนุนและแก้ปัญหาผู้ประกอบการประมง และผู้ประกอบการอาหารทะเลในประทศไทย ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับความสะดวก และได้รับการคุ้มครองในการประกอบอาชีพ
  5. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบ คุณสมบัติ อำนาจ และหน้าที่ ของคณะกรรมการประมงแห่งชาติ และคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด ตามกฎหมายฉบับนี้
  6. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขในการทำประมงในประเทศไทยตามกฎหมายนี้
  7. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจและหน้าที่ของเจ้าของเรือประมงไทยตามกฎหมายนี้
  8. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจและหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายฉบับนี้
  9. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขมาตรการทางปกครอง และบทกำหนดโทษทางอาญาตามกฎหมายนี้
  10. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ถ้ามี)