โดยที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีบทบัญญัติบางประการที่จำกัดความสามารถในการประกอบอาชีพของภาคประชาชน เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนธุรกิจใหญ่ และจำกัดความสามารถในการแข่งขันอย่างเสรีเป็นธรรม ไม่สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 60 จึงสมควรแก้ไขพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง และเป็นการส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและส่งเสริมภาคประชาชนให้ประกอบกิจการสถานีวิทยุท้องถิ่นชุมชนได้อย่างเสรีและเป็นธรรม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ประเด็นประกอบการพิจารณา
1) มีการกำหนดบทนิยาม ความหมายของคำว่า “วิทยุกระจายเสียง” ใหม่ เนื่องจากคำนิยามดังกล่าว ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มิได้สอดคล้องกับความหมายตามบทบัญญัติมาตรา 60 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญ แต่บัญญัติไว้ให้เชื่อมโยงกับพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาใช้บังคับซึ่งวิทยุกระจายเสียงและวิทยุคมนาคมเป็นคนละประเภท
2) มีการกำหนดแยกประเภทใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์หรือกิจการโทรคมนาคม ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- เพื่อความมั่นคง
- เพื่อสาธารณะประโยชน์
- เพื่อบริการชุมชน
- เพื่อเสริมสร้างอาชีพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
3) มีการกำหนดให้การอนุญาตใช้คลื่นความถี่กิจการวิทยุกระจายเสียง เป็นการประกอบธุรกิจ ให้แยกใบอนุญาตออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- ใบอนุญาตประกอบกิจการทางธุรกิจระดับชาติ ออกให้สำหรับกิจการวิทยุกระจายเสียงที่มีพื้นที่ให้บริการคลื่นความถี่ด้วยแรงส่งไม่เกินห้าพันวัตต์
- ใบอนุญาตประกอบกิจการทางธุรกิจระดับภูมิภาค ออกให้สำหรับกิจการวิทยุกระจายเสียงที่มีพื้นที่ให้บริการคลื่นความถี่ด้วยแรงส่งไม่เกินสามพันวัตต์
- ใบอนุญาตประกอบกิจการทางธุรกิจระดับจังหวัด ออกให้สำหรับกิจการวิทยุกระจายเสียงที่มีพื้นที่ให้บริการคลื่นความถี่ด้วยแรงส่งไม่เกินหนึ่งพันวัตต์
- ใบอนุญาตประกอบกิจการทางธุรกิจระดับ ชุมชน หรือชุมชนท้องถิ่น ออกให้สำหรับกิจการวิทยุกระจายเสียงที่มีพื้นที่ให้บริการคลื่นความถี่ด้วยแรงส่งไม่เกินห้าร้อยวัตต์
และมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ตามใบอนุญาตประกอบกิจการธุรกิจดังกล่าว (มาตรา 41/5)
4) มีการกำหนดการยื่นคำขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ กสทช ประกาศกำหนด แต่ถ้าเป็นการประกอบกิจการธุรกิจ ตามมาตรา 41/5 ให้ถือว่าเป็นการยื่นคำขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์หรือกิจการโทรคมนาคม
5) มีการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแต่ละประเภท (มาตรา 41/1 – มาตรา 41/4) ให้ชำระเป็นรายปีให้เหมาะสมกับประเภทใบอนุญาตแต่มิให้เกินร้อยละสองของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายจากยอดสรุปบัญชีประจำปีและกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ให้ชำระเป็นรายปี ตามร่างมาตรา 6
6) มีการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและบทลงโทษของใบอนุญาตและผู้ได้รับใบอนุญาต