สถานะ : ปิดรับฟังความคิดเห็น รายงานผลการรับฟังความคิดเห็น บรรจุเข้าระเบียบวาระ
ร่างพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย นายอดิศร เพียงเกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับคณะ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

                    ร่างพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. .... เสนอขึ้นเพื่อปรับปรุงพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานทำให้มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เอื้อต่อการบริหารงานและการกำกับดูแล ตลอดจนไม่เหมาะสมกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และการดำเนินงานของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
มีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งอาจเกิดปัญหาต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง ดังนั้น เพื่อส่งเสริม พัฒนา และคุ้มครองสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นอันจะเป็นที่พึ่งหลักของประชาชนต่อการบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายจากสภาวการณ์ที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียบุคคลในครอบครัว จึงสมควรขยายขอบเขตวัตถุประสงค์ของการฌาปนกิจสงเคราะห์ การกำกับดูแล ด้วยการส่งเสริมการจัดตั้งสมาพันธ์สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือกันและกันของบรรดาสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ การสร้างความคล่องตัวในการบริหารจัดการและการบริการสมาชิกอย่างทั่วถึงด้วยระบบศูนย์ประสานงาน การเสริมสร้างความมั่นคงของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ด้วยการส่งเสริมการจัดตั้งกองทุนภายใน การเสริมสร้างระบบบริหารที่โปร่งใสและป้องกันการผูกขาดอำนาจบริหารด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งและการเว้นวาระการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ตามขนาดของสมาคมและการจัดให้มีผู้สอบบัญชีเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองงบแสดงฐานะทางการเงิน ตลอดจนส่งเสริมให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์มีการบริหารจัดการและควบคุมโดยสมาชิกตามหลักประชาธิปไตย สมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 เสียใหม่ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

                   ร่างพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. .... มีเนื้อหาทั้งหมด 85 มาตรา โดยแบ่งออกเป็น 10 หมวด ซึ่งมีสาระสำคัญโดยสังเขป ดังนี้

                    หมวด 1 บททั่วไป กำหนดบทนิยามที่เกี่ยวข้อง กำหนดให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาจจัดตั้งกองทุนได้ กำหนดให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์แบ่งออกเป็นสี่ขนาด กำหนดให้อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเป็นนายทะเบียนกลาง และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

                    หมวด 2 การจัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำหนดขั้นตอนและวิธีการจัดตั้งสมาคม กำหนดให้สมาคมต้องจดทะเบียนและให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล กำหนดให้สมาคมที่มีสมาชิกอยู่นอกเขตจังหวัดที่ตั้งของสมาคมอาจจัดตั้งศูนย์ประสานงานได้ กำหนดกรณีสมาคมย้ายสถานที่ตั้งสำนักงานไปอยู่ในเขตท้องที่อื่น กำหนดเวลาเปิดทำการสำนักงานและศูนย์ประสานงานให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน

                    หมวด 3 การดำเนินกิจการของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำหนดเกี่ยวกับการนัดประชุมใหญ่สามัญครั้งแรก การแต่งตั้งกรรมการ องค์ประกอบของคณะกรรมการดำเนินการ วาระการดำรงตำแหน่งและการเว้นวาระการดำรงตำแหน่งตามขนาดของสมาคม การเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ การเรียกเก็บเงินสมาชิก และค่าตอบแทนของกรรมการ

                    หมวด 4 การควบคุมสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำหนดให้สมาคมต้องมีทะเบียนสมาชิกตามแบบที่นายทะเบียนกลางกำหนด กำหนดให้สมาคมต้องส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกในส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิกต่อนายทะเบียน กำหนดให้ทะเบียนสมาชิก สำเนาเอกสารต่าง ๆ ประจำตัวสมาชิกจัดเก็บหรือนำส่งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ และเมื่อสิ้นปีปฏิทินทุกปีกรณีสมาคมที่มีสมาชิกตั้งแต่หนึ่งหมื่นคนขึ้นไปต้องมีผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรับรองงบแสดงฐานะการเงิน และให้สมาคมเก็บรักษาเอกสารหลักฐานไว้ไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันปิดบัญชี

                    หมวด 5 การฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจและองค์กรวิชาชีพซึ่งเป็นนิติบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กำหนดระเบียบการขึ้นทะเบียน การดำเนินกิจการ การควบคุม และการเลิกกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรวิชาชีพซึ่งเป็นนิติบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐ

                    หมวด 6 สมาพันธ์สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำหนดให้สมาคมจำนวนไม่น้อยกว่าเจ็ดสมาคมซึ่งต้องมีสมาคมขนาดใหญ่พิเศษไม่น้อยกว่าสองสมาคม รวมกันจัดตั้งสมาพันธ์สมาคมได้และกำหนดขั้นตอนการจัดตั้ง องค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของสมาพันธ์สมาคมไว้

                    หมวด 7 การควบรวมสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำหนดเหตุและขั้นตอนในการควบรวมสมาคม กำหนดให้สมาคมที่ตั้งขึ้นใหม่โดยควบเข้ากันนั้นต้องจดทะเบียนเป็นสมาคมใหม่ และให้สมาคมใหม่ได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้สิน สิทธิและความรับผิดชอบของสมาคมเดิมที่ได้ควบเข้ากัน

                    หมวด 8 การเลิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ กำหนดเหตุในการเลิกสมาคม กำหนดกรณีที่นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้เลิกสมาคม กำหนดขั้นตอนการอุทธรณ์กรณีนายทะเบียนสั่งให้เลิกสมาคม

                    หมวด 9 การชำระบัญชี กำหนดให้การเลิกหรือควบรวมสมาคมต้องมีการชำระบัญชี กำหนดให้ที่ประชุมใหญ่ตั้งผู้ชำระบัญชีโดยได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน กำหนดขั้นตอนการชำระบัญชี กำหนดให้ผู้ชำระบัญชีต้องทำงบดุลของสมาคมที่เลิกหรือควบรวมส่งให้ผู้สอบบัญชีรับรอง และกำหนดข้อห้ามภายหลังชำระบัญชีแล้ว

                    หมวด 10 บทกำหนดโทษ กำหนดโทษทางอาญา และโทษปรับเป็นพินัย

                    บทเฉพาะกาล

                    อัตราค่าธรรมเนียม

 

ตารางเปรียบเทียบร่างพระราชบัญญัติ (ดาวน์โหลดเอกสารประกอบ)

 

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

                    1. ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง

                        กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว

                    2. ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยอ้อม

                        2.1 สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

                        2.2 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

                        2.3 กรุงเทพมหานคร

                        2.4 เมืองพัทยา

                        2.5 การฌาปนกิจสงเคราะห์ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรวิชาชีพซึ่งเป็นนิติบุคคลภายใต้การกำกับของรัฐ

                        2.6 สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์สมาชิกของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (สส.ชสอ.)

                        2.7 สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ราชการไทย (สสอ.รท.)

                        2.8 สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจไทย  (สสอร.)

                    3. ผู้ที่เกี่ยวข้องทั่วไป

                        ประชาชน

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

1 ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการกำหนดให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์จัดตั้งกองทุนภายใน การแบ่งขนาดสมาคม การห้ามนายทะเบียนเป็นกรรมการหรือเจ้าหน้าที่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ในท้องที่ซึ่งตนเป็นนายทะเบียน (ร่างมาตรา 5, 7 และ 8)

2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่มีสมาชิกอยู่นอกเขตจังหวัดที่ตั้งสมาคมจัดตั้งศูนย์ประสานงานได้ กรณีสมาคมย้ายสถานที่ตั้งสำนักงานไปอยู่ในเขตท้องที่อื่นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และกำหนดเวลาเปิด
ทำการสำนักงานและศูนย์ประสานงานให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ยกเว้นสมาคมที่มีสมาชิกไม่เกินหนึ่งหมื่นคนให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนเพื่อพิจารณาวันเวลาเปิดทำการได้ (ร่างมาตรา 12 และ 19)

3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการกำหนดให้กรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันได้โดยพิจารณาตามขนาดของสมาคม การกำหนดให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้โดยเป็นไปตามจำนวนสมาชิกของสมาคม กำหนดให้การส่งหนังสือนัดประชุมอาจใช้วิธีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ และกำหนดให้สมาคมที่มีสมาชิกเกินกว่าห้าร้อยคน
อาจกำหนดให้มีการประชุมใหญ่โดยผู้แทนกลุ่มสมาชิกได้ (ร่างมาตรา 26 ถึงร่างมาตรา 30)

 4. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการกำหนดให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เรียกเก็บเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าจากสมาชิกตามกลุ่มอายุที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ และการกำหนดให้ที่ปรึกษาหรือบุคคลที่ทำคุณประโยชน์อื่นใดให้สมาคมสามารถรับค่าตอบแทนได้ (ร่างมาตรา 35 และ 37)

5. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการกำหนดให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกกรณีมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิกให้แก่นายทะเบียนทุกครึ่งปี การกำหนดให้สมาคมมอบและเก็บหลักฐานการเป็นสมาชิก การรับจ่ายเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ การให้สมาคมเก็บรักษาเอกสารหลักฐานไว้เพื่อตรวจสอบไม่น้อยกว่าห้าปี และการยื่นคำขอตรวจสอบเอกสารต่อนายทะเบียนเพื่อสั่งการให้สมาคมเปิดเผยเอกสารได้ (ร่างมาตรา 41 ถึงร่างมาตรา 45)

6. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการกำหนดให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สามารถจัดตั้งสมาพันธ์สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์และควบรวมสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ได้ (ร่างมาตรา 56 ถึงร่างมาตรา 63)

7. ท่านเห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการฌาปนกิจสงเคราะห์ในปัจจุบัน มีปัญหาหรือไม่อย่างไร และการเสนอร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้หรือไม่เพียงใด

8. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ถ้ามี)