โดยที่การกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่จะจัดทำโครงการร่วมลงทุนในกิจการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง ผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้พิการ ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน พ.ศ. 2562 ทำให้การจัดที่อยู่อาศัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง ผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้พิการทำได้ยากและล่าช้า เนื่องจากมีข้อจำกัดทั้งในทางกฎหมายและในทางปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นอุปสรรคในการให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลดังกล่าว จึงควรยกเลิกมิให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน พ.ศ. 2562 โดยการยกเลิก (10) ของมาตรา 7 ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการที่จะจัดทำโครงการในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะสามารถจัดทำโครงการเกี่ยวกับที่พักอาศัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง ผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้พิการได้เอง โดยไม่ต้องรอให้มีเอกชนร่วมลงทุนในโครงการ อันส่งผลทำให้หน่วยงานรัฐจัดทำโครงการพื้นฐานได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และประชาชนย่อมสามารถเข้าถึงโครงการพื้นฐานได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ตารางเปรียบเทียบ (เอกสารแนบ)
1. ผู้เกี่ยวข้องโดยตรง
1.1 คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
1.2 คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
1.3 สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
2. ผู้เกี่ยวข้องโดยอ้อม
2.1 สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
2.2 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
2.3 กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
2.4 กรมกิจการผู้สูงอายุ
2.5 การเคหะแห่งชาติ
3. ผู้เกี่ยวข้องทั่วไป
ประชาชน
1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร กับการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการสามารถจัดทำโครงการในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะเกี่ยวกับที่พักอาศัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง ผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้พิการได้เอง โดยไม่ต้องมีเอกชนร่วมลงทุน
2. ท่านมีความคิดเห็นว่าการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำโครงการในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะสามารถจัดทำโครงการเกี่ยวกับที่พักอาศัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง ผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้พิการที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีสภาพปัญหาอย่างไร และการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไร
3. ข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ถ้ามี)