สถานะ : เปิดรับฟังความคิดเห็น
ร่างพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

          โดยที่พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมและเป็นการขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะตามหลักสิทธิชุมชนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งชุมชนย่อมมีสิทธิจัดการ บำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน ก่อให้เกิดข้อพิพาทความขัดแย้ง ระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐ ประชาชนกับประชาชน ทั้งที่มีประชาชนที่ได้อยู่อาศัยครอบครอง ทำประโยชน์มาก่อนการถูกประกาศแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติประกาศทับและมีประชาชนยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อการประกอบอาชีพหรือเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมิได้มีสภาพเป็นป่าหรือเป็นป่าเสื่อมโทรม และไม่เป็นป่าที่ควรอนุรักษ์เพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว จึงควรช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีแต่ไม่เพียงพอเพื่อการดำรงชีพ และได้ยึดถือครอบครองทำประโยชน์พื้นที่ก่อนหนึ่งปีก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้สามารถประกอบอาชีพและอยู่อาศัยโดยไม่ถือว่าเป็นการกระทำความผิดทางอาญา โดยกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจพิจารณาความเหมาะสมในการออกหนังสือรับรองการยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด นอกจากนี้ กรมป่าไม้ซึ่งเป็นส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลระดับกรม ทำหน้าที่กำกับดูแลภาพรวม (Regulator) ที่เป็นมาตรฐานหลักเกณฑ์ในฐานะผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ “องค์กรปกครองท้องถิ่น” เป็นเจ้าภาพหลักทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการในกิจการ (Operator) ของป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งนี้ ในการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาตินั้น ต้องให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมดำเนินการและได้รับประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวด้วยซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สภาพความเป็นจริงของพื้นที่ เพื่อให้ราษฎรได้มีสิทธิในที่ดินและสิทธิในการจัดการทรัพยากรต่อไปโดยกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจพิจารณาความเหมาะสมในการออกหนังสือรับรองยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดและเพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สาระสำคัญ

          1. กำหนดให้ที่ดินที่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายอื่นหรือที่ดินที่มีประชาชนอยู่อาศัย ทำกินหรือครอบครองทำประโยชน์มาก่อนการกำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ไม่เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 (ร่างมาตรา 3 เพิ่มมาตรา 6 วรรคสาม)

          2. กำหนดให้ในกรณีเป็นพื้นที่ที่ประชาชนอยู่อาศัย ทำกินหรือครอบครองทำประโยชน์มาก่อนการกำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ให้เพิกถอนแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ทับซ้อนออกและให้กรมที่ดินดำเนินการออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมายหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามหลักสิทธิชุมชนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งชุมชนย่อมมีสิทธิจัดการ บำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยการพิสูจน์สิทธิการครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยที่ดิน หากปรากฏว่ามีการครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายหลังที่ดินเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิแก่ชุมชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ ส่วนหลักเกณฑ์และแนวทางการพิสูจน์สิทธิการครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยที่ดิน ให้เป็นไปตามสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ หลักสิทธิชุมชนและความยุติธรรม (ร่างมาตรา 4 เพิ่มมาตรา 12/1)

          3. กำหนดให้ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีแต่ไม่ถึงยี่สิบไร่ ได้ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งไม่มีสภาพเป็นป่าหรือเป็นป่าเสื่อมโทรม และไม่เป็นป่าที่ควรอนุรักษ์เพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมเนื้อที่ไม่เกินยี่สิบห้าไร่เพื่อยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ก่อนหนึ่งปีก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ สามารถยื่นคำขอต่อผู้บริหารท้องถิ่นที่ป่านั้นตั้งอยู่เพื่อขอหนังสือรับรองการยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้น โดยให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจารณาอนุญาตตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทำการรังวัดที่ดินที่ยื่นคำขอยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ แล้วออกหนังสือรับรองการยึดถือครองครองและทำประโยชน์แก่ผู้ยื่นคำขอโดยไม่ชักช้าและไม่เสียค่าธรรมเนียม ในกรณีที่มีคำสั่งไม่อนุญาต และผู้ยื่นคำขอไม่เห็นด้วย มีสิทธิอุทธรณ์ต่อสภาท้องถิ่นภายในเก้าสิบวันนับแต่วันทราบคำสั่งไม่อนุญาต คำสั่งของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้เป็นที่สุด (ร่างมาตรา 4 เพิ่มมาตรา 12/2)

          4. กำหนดให้ผู้ได้รับหนังสือรับรองการยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ มีสิทธิครอบครองที่ดินนั้นแต่ไม่สามารถโอนให้แก่ผู้อื่นได้ เว้นแต่ตกทอดให้แก่ทายาทโดยธรรม แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในการยื่นคำขอมีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยที่ดินหรือกฎหมายอื่น (ร่างมาตรา 4 เพิ่มมาตรา 12/3)

          5. กำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อรองรับให้พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับกับพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (ร่างมาตรา 5)

          6. กำหนดให้การพิจารณาอนุญาตใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อให้บุคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมพิจารณาโดยให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมดำเนินการและได้รับประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวด้วย (ร่างมาตรา 6 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 16 วรรคสอง)

          7. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 7)

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

          1. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

          2. กระทรวงมหาดไทย

          3. ประชาชนทั่วไป

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

          1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้ที่ดินที่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายอื่นหรือที่ดินที่มีประชาชนอยู่อาศัย ทำกินหรือครอบครองทำประโยชน์มาก่อนการกำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ไม่เป็นป่าสงวนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 (ร่างมาตรา 3 เพิ่มมาตรา 6 วรรคสาม)

          2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้ในกรณีเป็นพื้นที่ที่ประชาชนอยู่อาศัย ทำกินหรือครอบครองทำประโยชน์มาก่อนการกำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ให้เพิกถอนแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ทับซ้อนออกและให้กรมที่ดินดำเนินการออกหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมายหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามหลักสิทธิชุมชนในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งชุมชนย่อมมีสิทธิจัดการ บำรุงรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนโดยการพิสูจน์สิทธิการครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยที่ดิน หากปรากฏว่ามีการครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายหลังที่ดินเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ให้ที่ดินตกเป็นกรรมสิทธิ์หรือสิทธิแก่ชุมชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ ส่วนหลักเกณฑ์และแนวทางการพิสูจน์สิทธิการครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยที่ดิน ให้เป็นไปตามสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ หลักสิทธิชุมชนและความยุติธรรม (ร่างมาตรา 4 เพิ่มมาตรา 12/1)

          3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินหรือมีแต่ไม่ถึงยี่สิบไร่ ได้ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งไม่มีสภาพเป็นป่าหรือเป็นป่าเสื่อมโทรม และไม่เป็นป่าที่ควรอนุรักษ์เพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมเนื้อที่ไม่เกินยี่สิบห้าไร่ เพื่อยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ก่อนหนึ่งปีก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ สามารถยื่นคำขอต่อผู้บริหารท้องถิ่นที่ป่านั้นตั้งอยู่เพื่อขอหนังสือรับรองการยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินนั้น โดยให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจารณาอนุญาตตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทำการรังวัดที่ดินที่ยื่นคำขอยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ แล้วออกหนังสือรับรองการยึดถือครองครองและทำประโยชน์แก่ผู้ยื่นคำขอโดยไม่ชักช้าและไม่เสียค่าธรรมเนียม ในกรณีที่มีคำสั่งไม่อนุญาต และผู้ยื่นคำขอไม่เห็นด้วย มีสิทธิอุทธรณ์ต่อสภาท้องถิ่นภายในเก้าสิบวันนับแต่วันทราบคำสั่งไม่อนุญาต คำสั่งของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดให้เป็นที่สุด (ร่างมาตรา 4 เพิ่มมาตรา 12/2)

          4. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้ผู้ได้รับหนังสือรับรองการยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ มีสิทธิครอบครองที่ดินนั้นแต่ไม่สามารถโอนให้แก่ผู้อื่นได้ เว้นแต่ตกทอดให้แก่ทายาทโดยธรรม แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในการยื่นคำขอมีสิทธิในที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยที่ดินหรือกฎหมายอื่น (ร่างมาตรา 4 เพิ่มมาตรา 12/3)

          5. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดบทเฉพาะกาลเพื่อรองรับให้พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับกับพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (ร่างมาตรา 5)

          6. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้การพิจารณาอนุญาตใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อให้บุคลหนึ่งบุคคลใดเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมพิจารณาโดยให้ประชาชนและชุมชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมดำเนินการและได้รับประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าวด้วย (ร่างมาตรา 6 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 16 วรรคสอง)

          7. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 7)

          8. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่นๆ (ถ้ามี)