สถานะ : เปิดรับฟังความคิดเห็น
ร่างพระราชบัญญัติสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

โดยที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้บุคคลมีสิทธิรวมตัวกันเพื่อจัดตั้งเป็นองค์กรและให้รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาท เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาและพระภิกษุสามเณรไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินมาตรการหรือกลไกดังกล่าวด้วย สมควรที่รัฐและพุทธศาสนิกชนจะดำเนินการเพื่อให้เกิดการรวมตัวกันจัดตั้งองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา เพื่อให้การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสืบไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สาระสำคัญ

            ให้มีกฎหมายว่าด้วยสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ดังต่อไปนี้

  1. กำหนดบทนิยามเพื่ออธิบายความหมายของถ้อยคำที่ใช้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 3)
  2. กำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนามีสิทธิรวมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 4)
  3. กำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่จะรวมตัวกันดำเนินการต้องไม่มีวัตถุประสงค์ขัดแย้งต่อหลักธรรมตามพระพุทธศาสนา ไม่ถูกครอบงำ โดยหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพรรคการเมือง (ร่างมาตรา 5)
  4. กำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่ประสงค์จะเข้าร่วมจัดตั้งหรือเป็นสมาชิกของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาให้แจ้งสถานะความเป็นองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาไว้ต่อนายทะเบียน (ร่างมาตรา 6)
  5. กำหนดให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยมอบหมายเป็นนายทะเบียนกลาง มีหน้าที่รับแจ้งสถานะความเป็นองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาได้ทั่วราชอาณาจักร และมีหน้าที่อื่นตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็นนายทะเบียนประจำจังหวัด และมีหน้าที่รับแจ้งสถานะความเป็นองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาภายในจังหวัดนั้น (ร่างมาตรา 7)
  6. กำหนดให้บุคคลที่เห็นว่าองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่ได้แจ้งไว้ มีลักษณะไม่ถูกต้องตามมาตรา 5 มีสิทธิยื่นคำคัดค้านพร้อมทั้งหลักฐานต่อนายทะเบียนกลางได้ และเมื่อนายทะเบียนกลางได้รับคำคัดค้านให้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยโดยเร็ว หากเห็นว่าองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนานั้น มีลักษณะไม่ถูกต้องตามมาตรา 5 ให้เพิกถอนการรับแจ้งพร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ร้องและองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องทราบ ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของนายทะเบียนกลางให้เป็นที่สุด (ร่างมาตรา 8)
  7. กำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่าห้าสิบองค์กรมีสิทธิเข้าชื่อกันแจ้งต่อนายทะเบียนกลางเพื่อเป็นผู้เริ่มก่อการในการจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 9)
  8. กำหนดให้สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและดำเนินการอื่นใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดให้มีความเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อาณัติหรือการครอบงำหรือการสั่งการไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมจากหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพรรคการเมือง (ร่างมาตรา 10)
  9. กำหนดให้เมื่อจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาแล้ว ให้คณะผู้เริ่มก่อการจัดทำร่างข้อบังคับสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและเรียกประชุมสมาชิกภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศการจัดตั้งในราชกิจจานุเบกษา เพื่อดำเนินกิจกรรมจัดทำข้อบังคับสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา เลือกตั้งประธานและคณะกรรมการนโยบายของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา กำหนดนโยบาย แนวทาง หรือแผนงาน เกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา และกิจการอื่นที่คณะผู้เริ่มก่อการเห็นสมควร (ร่างมาตรา 11)
  10. กำหนดให้การจัดทำข้อบังคับสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาต้องมีเรื่องที่ระบุไว้ในมาตรานี้เป็นอย่างน้อย (ร่างมาตรา 12)
  11. กำหนดให้สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา มีอำนาจดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ตามมาตรานี้ นอกจากที่ได้กำหนดไว้ให้มีอำนาจดำเนินการตามวัตถุประสงค์ (ร่างมาตรา 13)
  12. กำหนดให้เป็นหน้าที่ของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาในการจัดให้มีการประชุมสมาชิก เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอันจะยังประโยชน์แก่การส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา และการปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 14)
  13. กำหนดให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนเป็นรายปีเป็นการจ่ายขาดให้แก่สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 15)
  14. กำหนดให้มีการประเมินผลการดำเนินงานของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาตามระยะเวลาที่สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนากำหนด แต่ต้องไม่เกินสามปี (ร่างมาตรา 16)
  15. กำหนดให้สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคเผยแพร่ให้ประชาชนทราบและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อทราบภายในหกเดือนนับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน (ร่างมาตรา 17)
  16. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 18)

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

  1. กระทรวงมหาดไทย
  2. กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
  3. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
  4. คณะรัฐมนตรี        
  5. องค์กรทางพระพุทธศาสนา
  6. ประชาชนทั่วไป

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

  1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดบทนิยามเพื่ออธิบายความหมายของถ้อยคำที่ใช้ในร่างพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 3)
  2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนามีสิทธิรวมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 4)
  3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่จะรวมตัวกันดำเนินการต้องไม่มีวัตถุประสงค์ขัดแย้งต่อหลักธรรมตามพระพุทธศาสนา ไม่ถูกครอบงำ โดยหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพรรคการเมือง (ร่างมาตรา 5)
  4. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่ประสงค์จะเข้าร่วมจัดตั้งหรือเป็นสมาชิกของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาให้แจ้งสถานะความเป็นองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาไว้ต่อนายทะเบียน (ร่างมาตรา 6)
  5.  ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยมอบหมายเป็นนายทะเบียนกลาง มีหน้าที่รับแจ้งสถานะความเป็นองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาได้ทั่วราชอาณาจักร และมีหน้าที่อื่นตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็นนายทะเบียนประจำจังหวัด และมีหน้าที่รับแจ้งสถานะความเป็นองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาภายในจังหวัดนั้น (ร่างมาตรา 7)
  6. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้บุคคลที่เห็นว่าองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่ได้แจ้งไว้ มีลักษณะไม่ถูกต้องตามมาตรา 5 มีสิทธิยื่นคำคัดค้านพร้อมทั้งหลักฐานต่อนายทะเบียนกลางได้ และเมื่อนายทะเบียนกลางได้รับคำคัดค้านให้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงแล้ววินิจฉัยโดยเร็ว หากเห็นว่าองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนานั้น มีลักษณะไม่ถูกต้องตามมาตรา 5 ให้เพิกถอนการรับแจ้งพร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ร้องและองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องทราบ ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของนายทะเบียนกลางให้เป็นที่สุด (ร่างมาตรา 8)
  7.  ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้องค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาไม่น้อยกว่าห้าสิบองค์กรมีสิทธิเข้าชื่อกันแจ้งต่อนายทะเบียนกลางเพื่อเป็นผู้เริ่มก่อการในการจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 9)
  8. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและดำเนินการอื่นใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดให้มีความเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อาณัติหรือการครอบงำหรือการสั่งการไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมจากหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพรรคการเมือง (ร่างมาตรา 10)
  9. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้เมื่อจัดตั้งสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาแล้วให้คณะผู้เริ่มก่อการจัดทำร่างข้อบังคับสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและเรียกประชุมสมาชิกภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศการจัดตั้งในราชกิจจานุเบกษา เพื่อดำเนินกิจกรรมจัดทำข้อบังคับสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา เลือกตั้งประธานและคณะกรรมการนโยบายของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา กำหนดนโยบาย แนวทาง หรือแผนงาน เกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา และกิจการอื่นที่คณะผู้เริ่มก่อการเห็นสมควร (ร่างมาตรา 11)
  10. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้การจัดทำข้อบังคับสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาต้องมีเรื่องที่ระบุไว้ในมาตรานี้เป็นอย่างน้อย (ร่างมาตรา 12)
  11. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา มีอำนาจดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ตามมาตรานี้ นอกจากที่ได้กำหนดไว้ให้มีอำนาจดำเนินการตามวัตถุประสงค์ (ร่างมาตรา 13)
  12. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้เป็นหน้าที่ของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาในการจัดให้มีการประชุมสมาชิก เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาและรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอันจะยังประโยชน์แก่การส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา และการปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 14)
  13. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนเป็นรายปีเป็นการจ่ายขาดให้แก่สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 15)
  14. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้มีการประเมินผลการดำเนินงานของสภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนา ตามระยะเวลาที่สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนากำหนด แต่ต้องไม่เกินสามปี (ร่างมาตรา 16)
  15. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้สภาองค์กรส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคเผยแพร่ให้ประชาชนทราบและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อทราบภายในหกเดือนนับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน (ร่างมาตรา 17)
  16. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 18)
  17. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ถ้ามี)