สถานะ : ปิดรับฟังความคิดเห็น
ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

โดยที่พระพุทธศาสนาเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของชาติ และเป็นที่มา ของหลักศีลธรรม ปัญญาและความเข้มแข็งของสังคมไทยมาช้านาน อันถือได้ว่าเป็นสถาบันหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ประกอบกับมาตรา ๖๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติให้รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ทั้งนี้ในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน ให้รัฐพึงส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาและการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทเพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจและปัญญา และต้องมีมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และพึงส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินมาตรการและกลไกดังกล่าวด้วย จึงสมควรให้มีองค์กรหรือหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติและรับผิดชอบในการกำกับดูแลและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและกำหนดแนวนโยบายหรือแนวทางในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมให้รัฐและพุทธศาสนิกชนในการดำเนินการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงสืบไป จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สาระสำคัญ

            ให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ดังนี้

            1. กำหนดความหมายบทนิยามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. .... (ร่างมาตรา 3)

            2  กำหนดให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. .... โดยให้มีหน้าที่และอำนาจออกระเบียบและประกาศเพื่อให้การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาบรรลุวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของกฎหมาย (ร่างมาตรา 4)

            3  กำหนดมาตรการการสนับสนุน ส่งเสริมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อให้รัฐ
และพุทธศาสนิกชนใช้เป็นแนวทางในการการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 5)

            4. กำหนดให้มีองค์กรหรือหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติและรับผิดชอบในการกำกับดูแลและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและกำหนดแนวนโยบายหรือแนวทางในการการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาโดยกำหนดให้มีคณะกรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาเป็นองค์กรหรือหน่วยงานหลักในการปฏิบัติหน้าที่กำหนดนโยบายหรือแนวทางในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา และกำหนดให้มีคณะกรรมการสมัชชาอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดทำหน้าที่และมีอำนาจในการขับเคลื่อนและดำเนินการตามนโยบายหรือแนวทางในในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาโดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำหน้าที่หน่วยงานธุรการและรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานของคณะกรรมการทั้งสอง (ร่างมาตรา 6 – มาตรา 21 )

            5. กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุน เป็นองค์กรหรือหน่วยงานปฏิบัติในการบริหารจัดการและขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุน (ร่างมาตรา 22 – มาตรา 24)

            6. กำหนดมาตรการแนวทางการคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยกำหนดมาตรการคุ้มครองและการให้ความช่วยเหลือทางคดีให้กับพระภิกษุหรือสามเณรที่ถูกกล่าวว่ากระทำความผิดอาญา (ร่างมาตรา 25 – มาตรา 26 )

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

  1.  สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
  2.  กระทรวงการคลัง
  3.  กระทรวงการต่างประเทศ
  4.  กระทรวงมหาดไทย
  5.  กระทรวงยุติธรรม
  6.  กระทรวงวัฒนธรรม
  7.  กระทรวงศึกษาธิการ
  8.  สำนักงานอัยการสูงสุด
  9.  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  10.  กรมประชาสัมพันธ์
  11.  สภาทนายความ
  12.  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  13.  มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  14.  สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
  15.  มหาเถรสมาคม
  16.  องค์กรทางพระพุทธศาสนา
  17.  ประชาชนทั่วไป

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

  1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดความหมายบทนิยามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. .... (ร่างมาตรา 3)
  2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. .... โดยให้มีหน้าที่และอำนาจออกระเบียบและประกาศเพื่อให้การอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาบรรลุวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของกฎหมาย (ร่างมาตรา 4)
  3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดมาตรการการสนับสนุน ส่งเสริมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อให้รัฐและพุทธศาสนิกชนใช้เป็นแนวทางในการการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา (ร่างมาตรา 5)
  4. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้มีองค์กรหรือหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติและรับผิดชอบในการกำกับดูแลและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนและกำหนดแนวนโยบายหรือแนวทางในในการการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาโดยกำหนดให้มีคณะกรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาเป็นองค์กรหรือหน่วยงานหลักในการปฏิบัติหน้าที่กำหนดนโยบายหรือแนวทางในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา และกำหนดให้มีคณะกรรมการสมัชชาอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดทำหน้าที่และมีอำนาจในการขับเคลื่อนและดำเนินการตามนโยบายหรือแนวทางในในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาโดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำหน้าที่หน่วยงานธุรการและรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานของคณะกรรมการทั้งสอง (ร่างมาตรา 6 – มาตรา 21)
  5.  ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุน เป็นองค์กรหรือหน่วยงานปฏิบัติในการบริหารจัดการและขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุน (ร่างมาตรา 22 – มาตรา 24 )
  6. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกำหนดมาตรการแนวทางการคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยกำหนดมาตรการคุ้มครองและการให้ความช่วยเหลือทางคดีให้กับพระภิกษุหรือสามเณรที่ถูกกล่าวว่ากระทำความผิดอาญา (ร่างมาตรา 25 – มาตรา 25)
  7.  ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ถ้ามี)