สถานะ : ปิดรับฟังความคิดเห็น รายงานผลการรับฟังความคิดเห็น
ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย นายอนันต์ ผลอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับคณะเป็นผู้เสนอ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับคณะผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564

 

สาระสำคัญ

          เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ได้กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อาจร่วมดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง และคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไว้อย่างจำกัด โดยกำหนดให้บุคคลซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 98 (1) (2) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) (11) (14) (16) (17) หรือ (18) ของรัฐธรรมนูญ อยู่ในระหว่างถูกสั่งห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นหรือผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นตามมาตรา 11 หรือผู้แจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นตามมาตรา 18 เป็น
ผู้อาจร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง และกำหนดห้ามมิให้บุคคลผู้ถูกต้องห้ามให้ใช้สิทธิสมัคร
รับเลือกตั้งตามมาตรา 98 (1) (2) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) (11) (14) (16) (17) หรือ (18) ของรัฐธรรมนูญ เป็นสมาชิกพรรคการเมือง อันเป็นการจำกัดสิทธิของประชาชนในการร่วมกันดำเนินการ
เพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองและเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเกินสมควร
ประกอบกับ บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564 ได้กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนห้าร้อยคน โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวนสี่ร้อยคน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวนหนึ่งร้อยคน และให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบที่ให้ประชาชนมีสิทธิในการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและการแบ่งเขตเลือกตั้ง การคำนวณสัดส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองที่จะได้รับเลือกตั้งที่เป็นธรรมต่อพรรคการเมืองและเคารพสิทธิ
และเสียงของประชาชน จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามดังกล่าวเพื่อรองรับสิทธิทางการเมืองในการรวมกลุ่มของประชาชนให้มากขึ้น และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมือง
การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ
จึงต้องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ดังต่อไปนี้

          1. แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อาจร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง โดยกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อาจร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองโดยให้บุคคลซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองในแนวทางเดียวกัน และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้  (1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด ในกรณีเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี  (2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์  (3) ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 96 (1) (2) (3) และ (4) ของรัฐธรรมนูญ และ (4) ไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นหรือผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นตามมาตรา 11 หรือผู้แจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นตามมาตรา 18 จำนวนไม่น้อยกว่าห้าร้อยคนอาจร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ได้ (ร่างมาตรา 3)

          2. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองที่เรียกเก็บจากสมาชิกพรรคการเมือง (ร่างมาตรา 4 และร่างมาตรา 5)

            3. แก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของสมาชิกพรรคการเมืองให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับ ซึ่งอย่างน้อยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 9 (ร่างมาตรา 6)

          4. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด (ร่างมาตรา 7)

          5. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขของพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง (ร่างมาตรา 8 ร่างมาตรา 9)

          6. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (ร่างมาตรา 10)

          7. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ร่างมาตรา 11)

          8. ยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับข้อห้ามในดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ (ร่างมาตรา 12)

          9. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อห้ามในดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ (ร่างมาตรา 13)

       10. ยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับบทกำหนดโทษของการฝ่าฝืนข้อห้ามในดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ (ร่างมาตรา 14)

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

  1.  พรรคการเมือง  ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดและสมาชิกพรรคการเมือง
  2.  คณะกรรมการการเลือกตั้ง
  3.  ศาลรัฐธรรมนูญ
  4. ประชาชนทั่วไป

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

  1. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้อาจร่วมกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง หรือไม่
  2. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองที่เรียกเก็บจากสมาชิกพรรคการเมือง หรือไม่
  3. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือไม่
  4. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด หรือไม่
  5. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขของพรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือไม่
  6. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หรือไม่
  7. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หรือไม่
  8. สมควรยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับข้อห้ามในการดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ หรือไม่
  9. สมควรแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อห้ามในการดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ หรือไม่
  10. สมควรยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับบทกำหนดโทษของการฝ่าฝืนข้อห้ามในการดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ หรือไม่
  11. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ (ถ้ามี)