สถานะ : ปิดรับฟังความคิดเห็น รายงานผลการรับฟังความคิดเห็น
ร่างพระราชบัญญัติพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ประเภทร่าง เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นร่างการเงิน
เสนอโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ
ข้อมูลประกอบการพิจารณา

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๖๔

 

สาระสำคัญ

โดยที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๘๓ มาตรา ๘๖ และ มาตรา ๙๑ ที่ว่าด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ และการคำนวณคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ที่แยกออกมาจากคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบ
แบ่งเขตเลือกตั้ง (บัตรเลือกตั้งสองใบ) ทำให้ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสอดคล้องกับบทบัญญัติที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมในรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้ยังมีบทบัญญัติบางประการของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้อย่างสุจริตและเที่ยงธรรม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ดังต่อไปนี้

๑. แก้ไขเพิ่มเติมคำนิยาม “เขตเลือกตั้ง” (ร่างมาตรา ๓)

๒. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ (ร่างมาตรา ๔)

๓. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และการแบ่ง
เขตเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๕)

๔. เพิ่มเติมเกี่ยวกับหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งในการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ร่างมาตรา ๖ )

๕. ให้ยกเลิกหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเรียงตามลำดับเลขที่ของหลักฐานการรับสมัครรับเลือกตั้งที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งออกให้ (ร่างมาตรา ๗)

๖. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรคละหนึ่งบัญชี มีจำนวนไม่เกินหนึ่งร้อยรายชื่อ (ร่างมาตรา ๘)

๗. ให้ยกเลิกการกำหนดลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมือง และผู้สมัครหรือพรรคการเมืองจะมีผู้ช่วยหาเสียง (ร่างมาตรา ๙)

๘. เพิ่มเติมเกี่ยวกับหมายเลขของผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่ตนสังกัดกับหมายเลขประจำตัวผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคการเมืองนั้น ให้ใช้หมายเลขเดียวทุกเขตเลือกตั้งที่ส่งสมัคร (ร่างมาตรา ๑๐)

๙. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบ
แบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ ให้ใช้บัตรเลือกตั้งแบบละหนึ่งใบ (ร่างมาตรา ๑๑)

๑๐. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนน ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประสงค์จะลงคะแนน
ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาทลงในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกพรรคการเมืองใด”” (ร่างมาตรา ๑๒)

๑๑. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนน เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำเครื่องหมายกากบาทลงในบัตรเลือกตั้งแล้ว ให้พับบัตรเลือกตั้งเพื่อมิให้ผู้อื่นทราบว่าลงคะแนนเลือกผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด หรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด แล้วให้นำบัตรเลือกตั้งนั้นใส่ลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเองต่อหน้ากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๑๓)

๑๒. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งที่ออกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนได้ลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด (ร่างมาตรา ๑๔)

๑๓. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งหรือการออกเสียงลงคะแนน
นอกราชอาณาจักรที่ใด มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือหีบห่อที่ส่งบัตรเลือกตั้งมีลักษณะถูกเปิดมาก่อน โดยมีเหตุเกิดจากการกระทำที่ไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมีบัตรเลือกตั้งจากที่ใดสูญหาย ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจสั่งมิให้นับคะแนนนั้นโดยให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย

ในกรณีที่มีการนับคะแนนนอกราชอาณาจักร ถ้าการออกเสียงลงคะแนนที่ใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ถือว่าการนับคะแนนนั้นเป็นโมฆะและให้ถือว่าบัตรเหล่านั้นเป็นบัตรเสีย (ร่างมาตรา ๑๕)

๑๔. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนับคะแนนให้กระทำ ณ ที่เลือกตั้งโดยเปิดเผยติดต่อกันจนเสร็จสิ้น และห้ามมิให้เลื่อนหรือประวิงการนับคะแนน และต้องให้ประชาชนที่มาสังเกตการณ์นับคะแนนสามารถเห็นบัตรเลือกตั้งและเครื่องหมายลงคะแนนอย่างชัดเจน และห้ามมิให้ผู้ใดขัดขวางการบันทึกและการเผยแพร่ภาพและเสียงการนับคะแนนของประชาชนที่มาสังเกตการณ์การนับคะแนน และให้มีการนับคะแนนที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำเครื่องหมายในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกพรรคการเมืองใด” ด้วย (ร่างมาตรา ๑๖)

๑๕. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย คือบัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเกินจำนวนหนึ่งคนหรือพรรคการเมืองเกินจำนวนหนึ่งพรรคการเมือง บัตรที่ไม่อาจทราบได้ว่าลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด เว้นแต่เป็นการลงคะแนน “ไม่เลือกผู้สมัครใด” หรือ “ไม่เลือกพรรคการเมืองใด บัตรที่ได้ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง แล้วทำเครื่องหมายในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกพรรคการเมืองใด” (ร่างมาตรา ๑๗)

๑๖. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกาศผลการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งบันทึกหลักฐานเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องเผยแพร่ให้ประชาชนต้องเข้าถึงได้โดยทั่วไปภายในวันเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๑๘)

๑๗. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการนับคะแนนที่ปรากฏว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีก ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสอบสวนหาเท็จจริง หากเป็นการกระทำโดย
ไม่สุจริตของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งหรือบุคคลอื่นใดให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และให้รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่หรือสั่งให้ออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งในกรณีที่ทำให้ผลการเลือกตั้งในเขตการเลือกตั้งนั้นเปลี่ยนแปลงไป (ร่างมาตรา ๑๙)

๑๘. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวบรวมผลการนับคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น รวมทั้งคะแนนที่ได้จากการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งและการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งดำเนินการประกาศผลการรวมคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและคะแนนที่ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด และประกาศผลการรวมคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับและคะแนนที่ไม่เลือกพรรคการเมืองใด และให้รายงานประกาศผลการรวมคะแนนดังกล่าวต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพื่อรายงานคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยเร็วและให้เผยแพร่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วไป (ร่างมาตรา ๒๐)

๑๙. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครรายใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งนั้น ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และดำเนินการให้มีการรับสมัครผู้สมัครใหม่ โดยผู้สมัครเดิมทุกรายไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นใหม่นั้น (ร่างมาตรา ๒๑)

๒๐. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคำนวณหาจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจะพึงได้รับจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ร่างมาตรา ๒๒ และร่างมาตรา ๒๓)

๒๑. ให้ยกเลิกกรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งสืบสวนหรือ
ไต่สวนแล้วเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอื่นกระทำการดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทำดังกล่าวแล้วไม่ดำเนินการเพื่อระงับการกระทำนั้น ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองหรือคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลยหรือทราบถึงการกระทำนั้นแล้วมิได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นด้วย (ร่างมาตรา ๒๔)

๒๒. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้ง หรือเป็นการแจ้งหรือให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๒๕)

๒๓. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๒๖)

๒๔. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้ง มีหรือครอบครองไว้ซึ่งบัตรเลือกตั้งโดยไม่ชอบ ไม่ว่าบัตรเลือกตั้งนั้นจะเป็น
บัตรเลือกตั้งที่สำนักงานเป็นผู้จัดให้มีขึ้นหรือไม่ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
(ร่างมาตรา ๒๗)

๒๕. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เกี่ยวกับผลของ
การเลือกตั้ง ต้องได้รับโทษทางอาญา และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้จัดให้มีการเล่น
(ร่างมาตรา ๒๘)

๒๖. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๗๘ วรรคหนึ่ง ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๒๙)

๒๗. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๔๐ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๓๐)

๒๘. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้นั้นไม่ต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (ร่างมาตรา ๓๑)

๒๙. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๓๒)

๓๐. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครผู้ใดทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา ๔๕ หรือมาตรา ๕๗ อันเป็นเท็จ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๓๓)

๓๑. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๖๓ หรือในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำความผิด ถ้าหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง หรือเหรัญญิกของพรรคการเมืองรู้เห็นเป็นใจด้วยกับการกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือปรับเป็นจำนวนสามเท่าของจำนวนเงินที่เกินค่าใช้จ่ายที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๓๔)

๓๒. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมืองผู้ใดไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนหรือเป็นเท็จตามมาตรา ๖๗ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๓๕)

๓๓. ให้ยกเลิกในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำความผิดตามมาตรา ๗๕ หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้นซึ่งรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้น และให้ถือเป็นเหตุที่จะยุบพรรคการเมืองนั้นตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ร่างมาตรา ๓๖)

๓๔. ให้ยกเลิกการฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ (๓) (๔) หรือ (๕) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี (ร่างมาตรา ๓๗)

๓๕. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๗๔ หรือหาเสียงเลือกตั้งไม่ว่าด้วยประการใดเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อหรือเข้าใจผิดว่าเป็นนโยบายของพรรคการเมืองตามมาตรา ๗๔ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๓๘)

๓๖. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๙๕ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๑๐๔ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๓๙)

๓๗. ให้ยกเลิกความเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๙๕ วรรคสอง มาตรา ๙๖ มาตรา ๙๘ มาตรา ๑๐๐ หรือมาตรา ๑๐๑ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนดังกล่าวเป็นผู้รับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ถ้าได้แจ้งถึง
การกระทำดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมายก่อนถูกจับกุม ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษและไม่ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ร่างมาตรา ๔๐)

๓๘. ให้เพิ่มความเกี่ยวกับผู้ที่กระทำการให้เกิดอุปสรรคต่อการนับคะแนนหรือทำให้ประชาชน
ผู้สังเกตการณ์นับคะแนนไม่สามารถเห็นบัตรลงคะแนนและเครื่องหมายลงคะแนนอย่างชัดเจน หรือขัดขวางการบันทึกและเผยแพร่ภาพและเสียงของประชาชนผู้สังเกตการณ์นับคะแนนตามมาตรา ๑๑๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าผู้กระทำผิดดังกล่าวเป็นเจ้าพนักงานดำเนินการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท (ร่างมาตรา ๔๑)

๓๙. ให้เพิ่มความเกี่ยวกับผู้ที่กระทำการอันเป็นเหตุให้จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับ
บัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนนตามมาตรา ๑๒๒ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าผู้กระทำผิดดังกล่าวเป็นเจ้าพนักงานดำเนินการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท (ร่างมาตรา ๔๒)

๔๐. แก้ไขเพิ่มเติมกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้การเพิกถอนสิทธิดังกล่าวมีผลในทันทีและเริ่มนับระยะเวลานับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งหรือ
คำพิพากษา เว้นแต่ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น (ร่างมาตรา ๔๓)

ผู้ที่เกี่ยวข้อง

  1.  พรรคการเมือง
  2.  คณะกรรมการการเลือกตั้ง
  3.  กระทรวงมหาดไทย
  4.  ประชาชนทั่วไป

ประเด็นเพื่อรับฟังความคิดเห็น

๑. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมคำนิยาม “เขตเลือกตั้ง”

๒. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ

๓. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และการแบ่งเขตเลือกตั้ง

๔. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งในการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ

๕. เห็นด้วยหรือไม่ที่ให้ยกเลิกหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเรียงตามลำดับเลขที่ของหลักฐานการรับสมัครรับเลือกตั้งที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งออกให้

๖. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรคละหนึ่งบัญชี มีจำนวนไม่เกินหนึ่งร้อยรายชื่อ

๗. เห็นด้วยหรือไม่ที่ให้ยกเลิกการกำหนดลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมือง และผู้สมัครหรือพรรคการเมืองจะมีผู้ช่วยหาเสียง

๘. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมายเลขของผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่ตนสังกัดกับหมายเลขประจำตัวผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคการเมืองนั้น ให้ใช้หมายเลขเดียวทุกเขตเลือกตั้งที่ส่งสมัคร

๙. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ ให้ใช้บัตรเลือกตั้งแบบละหนึ่งใบ

๑๐. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนน ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประสงค์จะลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาทลงในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกพรรคการเมืองใด””

๑๑. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนน เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำเครื่องหมายกากบาทลงในบัตรเลือกตั้งแล้ว ให้พับบัตรเลือกตั้งเพื่อมิให้ผู้อื่นทราบว่าลงคะแนนเลือกผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด หรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด แล้วให้นำบัตรเลือกตั้งนั้นใส่ลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเองต่อหน้ากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง

๑๒. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งที่
ออกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนได้ลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใด

๑๓. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งหรือการออกเสียงลงคะแนนนอกราชอาณาจักรที่ใด มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือหีบห่อที่ส่งบัตรเลือกตั้งมีลักษณะถูกเปิดมาก่อน โดยมีเหตุเกิดจากการกระทำที่ไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมีบัตรเลือกตั้งจากที่ใดสูญหาย ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจสั่งมิให้นับคะแนนนั้นโดยให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย

ในกรณีที่มีการนับคะแนนนอกราชอาณาจักร ถ้าการออกเสียงลงคะแนนที่ใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ถือว่าการนับคะแนนนั้นเป็นโมฆะและให้ถือว่าบัตรเหล่านั้นเป็นบัตรเสีย

๑๔. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนับคะแนนให้กระทำ ณ ที่เลือกตั้งโดยเปิดเผยติดต่อกันจนเสร็จสิ้น และห้ามมิให้เลื่อนหรือประวิงการนับคะแนน และต้องให้ประชาชนที่มาสังเกตการณ์นับคะแนนสามารถเห็นบัตรเลือกตั้งและเครื่องหมายลงคะแนนอย่างชัดเจน และห้ามมิให้ผู้ใดขัดขวางการบันทึกและการเผยแพร่ภาพและเสียงการนับคะแนนของประชาชนที่มาสังเกตการณ์การนับคะแนน และให้มีการนับคะแนนที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำเครื่องหมายในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือก
พรรคการเมืองใด” ด้วย

๑๕. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย คือบัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเกินจำนวนหนึ่งคนหรือพรรคการเมืองเกินจำนวนหนึ่งพรรคการเมือง บัตรที่ไม่อาจทราบได้ว่าลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด เว้นแต่เป็นการลงคะแนน “ไม่เลือกผู้สมัครใด” หรือ “ไม่เลือกพรรคการเมืองใด บัตรที่ได้ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง แล้วทำเครื่องหมายในช่องทำเครื่องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกพรรคการเมืองใด”

๑๖. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกาศผลการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งบันทึกหลักฐานเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องเผยแพร่ให้ประชาชนต้องเข้าถึงได้โดยทั่วไปภายในวันเลือกตั้ง

๑๗. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการนับคะแนนที่ปรากฏว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีก ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสอบสวนหาเท็จจริง หากเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งหรือบุคคลอื่นใดให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และให้รายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่หรือสั่งให้ออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งในกรณีที่ทำให้ผลการเลือกตั้งในเขตการเลือกตั้งนั้นเปลี่ยนแปลงไป

๑๘. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวบรวมผลการนับคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น รวมทั้งคะแนนที่ได้จากการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งและการลงคะแนนเลือกตั้ง
นอกราชอาณาจักรแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งดำเนินการประกาศผลการรวมคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและคะแนนที่ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด และประกาศผล
การรวมคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับและคะแนนที่ไม่เลือกพรรคการเมืองใด และให้รายงานประกาศผลการรวมคะแนนดังกล่าวต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพื่อรายงานคณะกรรมการการเลือกตั้งโดยเร็วและให้เผยแพร่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วไป

๑๙. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครรายใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งนั้น ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และดำเนินการให้มีการรับสมัครผู้สมัครใหม่ โดยผู้สมัครเดิมทุกรายไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นใหม่นั้น

๒๐. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคำนวณหาจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจะพึงได้รับจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ

๒๑. เห็นด้วยหรือไม่ที่ให้ยกเลิกกรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งสืบสวนหรือไต่สวนแล้วเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอื่นกระทำการดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทำดังกล่าวแล้วไม่ดำเนินการเพื่อระงับ
การกระทำนั้น ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองหรือคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลยหรือทราบถึงการกระทำนั้นแล้วมิได้ยับยั้งหรือแก้ไขเพื่อให้
การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเสนอคำร้องต่อ
ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ให้
ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นด้วย

๒๒. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้ง หรือเป็นการแจ้งหรือให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๒๓. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจงใจกระทำด้วยประการใด ๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ได้
ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๒๔. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้ง มีหรือครอบครองไว้ซึ่งบัตรเลือกตั้งโดยไม่ชอบ ไม่ว่า
บัตรเลือกตั้งนั้นจะเป็นบัตรเลือกตั้งที่สำนักงานเป็นผู้จัดให้มีขึ้นหรือไม่ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๒๕. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เกี่ยวกับผลของการเลือกตั้ง ต้องได้รับโทษทางอาญา และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้จัดให้มีการเล่น

๒๖. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๗๘ วรรคหนึ่ง ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๒๗. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๔๐ ต้องได้รับโทษทางอาญา
แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๒๘. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้นั้นไม่ต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

๒๙. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๓๐. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครผู้ใดทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา ๔๕ หรือมาตรา ๕๗ อันเป็นเท็จ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอน
สิทธิเลือกตั้ง

๓๑. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๖๓ หรือในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำความผิด ถ้าหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง หรือเหรัญญิกของพรรคการเมืองรู้เห็นเป็นใจด้วยกับการกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่
สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือปรับเป็นจำนวนสามเท่าของจำนวนเงินที่เกินค่าใช้จ่ายที่คณะกรรมการ
การเลือกตั้งกำหนด แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๓๒. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรคการเมืองผู้ใดไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนหรือเป็นเท็จตามมาตรา ๖๗ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๓๓. เห็นด้วยหรือไม่ที่ให้ยกเลิกในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำความผิดตามมาตรา ๗๕ หัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้นซึ่งรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้น และให้ถือเป็นเหตุที่จะยุบพรรคการเมืองนั้นตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

๓๔. เห็นด้วยหรือไม่ที่ให้ยกเลิกการฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ (๓) (๔) หรือ (๕) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน
สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี

๓๕. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๗๔ หรือหาเสียงเลือกตั้งไม่ว่าด้วยประการใดเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อหรือเข้าใจผิดว่าเป็นนโยบายของพรรคการเมืองตามมาตรา ๗๔ ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่ไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

๓๖. เห็นด้วยหรือไม่ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา ๙๕ วรรคหนึ่�