สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งพรรคการเมือง ข้อบังคับพรรคการเมือง การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง การกระทำอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบ่งเขตและแบบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ เพื่อให้พรรคการเมืองสามารถบริหารงานได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ จึงได้เสนอให้มีการแก้ไขในเรื่องดังต่อไปนี้
1. บทบัญญัติที่เกี่ยวกับข้อบังคับพรรคการเมือง ให้ตัดเรื่องตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดออกไป ยกเลิกการเก็บค่าบำรุงพรรคแบบตลอดชีพในอัตราไม่น้อยกว่า 2,000 บาทออกไปและค่าบำรุงพรรคแบบรายปีในอัตราไม่น้อยกว่า 100 บาท เป็นการเก็บค่าบำรุงพรรคที่กำหนดให้จ่ายครั้งเดียวในอัตราไม่น้อยกว่า 50 บาทแทน ยกเลิกบทบัญญัติที่ห้ามพรรคการเมืองต้องไปกำหนดข้อบังคับในลักษณะที่ให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้ามามีการควบคุม ครอบงำ ชี้นำ พรรคการเมือง หรือกระทำให้พรรคขาดความเป็นอิสระไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
การตัดอำนาจของสมาชิกพรรคในการมีส่วนร่วมเพื่อพิจารณาข้อบังคับพรรคที่เกี่ยวกับ รายได้ของพรร อัตราค่าธรรมเนียม และค่าบำรุงพรรค
2. ยกเลิกบทบัญญัติการขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคเพราะเหตุไม่ชำระค่าบำรุงพรรคเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน
3. ยกเลิกบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการที่พรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลซึ่งมิใช่สมาชิกของพรรคเข้ามากระทำการในลักษณะควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรค และบทบัญญัติที่ห้ามบุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการในลักษณะดังกล่าวด้วย ตามมาตรา 28 และมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
4. ตัดเรื่องตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดที่ไม่มีสำนักงานใหญ่หรือสาขาพรรคการเมือง รวมถึงบทบาท หน้าที่และอำนาจ และความรับผิดของตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 58 มาตรา 67 มาตรา 84 มาตรา 104 มาตรา 112 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
5. กำหนดให้พรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะต้องมีสาขาพรรคการเมืองในภาคนั้น ๆ อย่างน้อยหนึ่งสาขา ถึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตในเขตเลือกตั้งของภาคนั้น ๆ แทนการจะต้องมีสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่นั้น
6. ให้คณะกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้พิจารณาส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ โดยให้คณะกรรมการคัดเลือกเสนอรายชื่อบุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่สาขาพรรคให้ความเห็นชอบและรายชื่อบุคคลอื่นที่เห็นสมควรตามลำดับต่อคณะกรรมการบริหารพรรค หรืออาจให้ที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองลงมติเลือก
ผู้สมควรส่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้ ในส่วนของการส่งสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อนั้นได้ตัดเรื่องการคำนึงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคต่าง ๆ และความเท่าเทียมระหว่างชายกับหญิงออกไป และยกเลิกกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อตามวิธีการและรูปแบบเดิมที่บัญญัติในมาตรา 50 ถึงมาตรา 57 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
7. ยกเลิกเหตุที่คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคการเมือง เพราะเหตุที่พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
8. ยกเลิกบทกำหนดโทษของการฝ่าฝืน มาตรา 29 มาตรา 30 มาตรา 31 มาตรา 35 มาตรา 52 มาตรา 53 มาตรา 54 มาตรา 55 มาตรา 56 มาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 77 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560