โดยที่โดยที่เจ้าพนักงานในการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ พนักงานอัยการผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน ล้วนเป็นผู้มีหน้าที่ในการดำเนินกระบวนการยุติธรรมเพื่อความเป็นธรรมของประชาชนภายใต้กฎหมายของบ้านเมือง จึงอาจกล่าวได้เจ้าพนักงานดังกล่าวนี้เป็นผู้รักษาและบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งย่อมจะต้องปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตและด้วยความชื่อตรงต่อกฎหมายอย่างถึงที่สุด หากเจ้าพนักงานดังกล่าวถูกอคติครอบงำหรือจงใจปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริตกระทำการบิดเบือนบังคับใช้กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงขอบเขตของบทบัญญัติแห่งกฎหมาย นิติวิธีการใช้การตีความกฎหมายหลักการทางกฎหมายอันเป็นที่ยอมรับ เจตนารมณ์หรือคุณธรรมทางกฎหมาย ตลอดจนขอบเขตแห่งอำนาจหน้าที่อันมีที่มาจากบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์หรือความเสียหายแก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีหรือคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมาย ก่อให้เกิดสภาวะที่ระบบกฎหมายปราศจากความมั่นคงแน่นอน อันเป็นการบั่นทอนมาตรฐานของระบบงานยุติธรรมของประเทศในภาพรวมให้ปราศจากความน่าเชื่อถือ และไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ตลอดจนนานาอารยประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างยิ่ง ทั้งนี้ สืบเนื่องจากประมวลกฎหมายอาญาฉบับปัจจุบันมิได้กำหนดฐานความผิดจากการกระทำดังกล่าวของเจ้าพนักงานในการยุติธรรมไว้เป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
สาระสำคัญ
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเดิมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. .... เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อกำหนดนิยามของคำว่า “บิดเบือนกฎหมาย” และกำหนดความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมบิดเบือนกฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์หรือความเสียหายแก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีหรือคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ในการสอบสวน การทำความเห็นทางคดี การสั่งพ้องหรือไม่ฟ้องคดี การทำคำสั่งรับหรือไม่รับฟ้อง การพิจารณาคดี การทำคำพิพากษาหรือคำชี้ขาดตัดสินคดี และการทำคำสั่งคำร้องหรือคำขออื่นใด