โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะ รับยื่นหนังสือตามลำดับจากนายไพฑูรย์ สร้อยสด ผู้แทนเครือข่ายประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ เรียกร้องให้สภาฯ พิจารณาเห็นชอบรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกร่าง
5 กุมภาพันธ์ 2568
วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากนายไพฑูรย์ สร้อยสด ผู้แทนเครือข่ายประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ และคณะ เรื่อง ขอเรียกร้องให้สภาฯ พิจารณาเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทุกร่าง ในวาระที่หนึ่งรับหลักการ เพื่อจะให้มีการเดินหน้าต่อไป
ด้วยเครือข่ายฯ เป็นเครือข่ายของประชาชนที่มาจากหลากหลายประเด็นปัญหาในหลายๆ ด้าน ทั้งที่จากปัญหาป่าไม้ที่ดิน ปัญหาจากการสร้างเขื่อน การทำเหมือง การเกษตร คนจนเมือง การศึกษา การบริหารจัดการท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 ทำให้มียุทธศาสตร์ชาติในการผลักดันแผนพัฒนาอุตสาหกรรมที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง ประชาชนถูกแย่งยึดทรัพยากรไปเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กลุ่มทุนผูกขาด แม้จะมีการเลือกตั้งมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่เป็นการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญที่มีโครงสร้างอำนาจไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ยึดโยงกับประชาชน ทำให้การออกกฎหมายหรือจัดสรรผลประโยชน์ที่ผ่านมาไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน
เมื่อสภาฯได้บรรจุระเบียบวาระในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อเปิดโอกาสให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 14 ก.พ. 68 นั้น เครือข่ายประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งได้ติดตามผลักดันการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่มากว่า 7 ปี จากคำมั่นสัญญาของทุกพรรคการเมืองโนการเลือกตั้ง ปี 2562 และ ปี 2566 การลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทนจากพรรคการเมืองเข้าสู่สภาในแต่ละครั้ง เพื่อหวังให้เข้ามาผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะเครือข่ายฯเห็นว่าปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนั้นล้วนมีสาเหตุมาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ดังนั้นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างยั่งยืนคือการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มีโครงสร้างอำนาจเป็นประชาธิปไตยมีโดยมีประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ฉะนั้นการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 โดยการจัดทำรัฐธธรรมนูฉบับใหม่ครั้งนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเดินหน้ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ครั้งนี้ ดังนั้น เครือข่ายฯจึงขอเรียกร้องให้ รัฐสภามีมติเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 ในวันที่ 13 – 14 ก.พ. 68 ซึ่งขณะนี้มีผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมดสองร่างคือ พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย เนื้อหาสาระต่างกันที่พรรคเพื่อไทยมีเงื่อนไขในการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดยไม่แตะต้องหมวด 1 บททั่วไป และ หมวด 2 พระมหากษัตริย์ และทั้งสองพรรคมีข้อเสนอการได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ “สสร.” จากการเลือกตั้ง 100% ซึ่งหากทั้งสองร่างผ่านจะเป็นการปลดล็อคเงื่อนไขที่ทำให้รัฐธรรมนูญ 2560 แก้ไขได้ง่ายขึ้นและนำไปสู่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งตามแนวทางที่รัฐบาลได้สัญญากับประชาชนไว้ และเป็นโอกาสสุดท้ายที่การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่จะเป็นไปได้ก่อนเลือกตั้งปี 2570
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ขอนำเรื่องดังกล่าว กราบเรียนประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป
จากนั้น นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้แทนพรรคร่วมรัฐบาล และคณะ รับยื่นหนังสือในเรื่องเดียวกัน
ด้านนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า ทางพรรคเพื่อไทย มีจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับเครือข่ายฯ ในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ต้องการการมีส่วนร่วมจากประชาชนมากขึ้น โดยได้ยื่นร่างพ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ให้มีการจัดตั้งให้มีสสร. ต่อสภาแล้ว ขอยืนยันว่ามีหลักการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของประชาชนเช่นเดียวกัน
ต่อจากนั้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือเรื่องเช่นเดียวกัน
ด้านผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านฯ ขอยืนยันว่าจะร่วมผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนต่อไป