ประธานรัฐสภา ให้การรับรอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุม ASEAN Islamic Conference
24 มกราคม 2568
วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2568 เวลา 15.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง Abdul latif Bin Abdulaziz Al al-Sheikh (อับดุล ลาทิฟ บิน อับดุลอาซิซ อัล ชีค) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุม ASEAN Islamic Conference ครั้งที่ 3 โดยมี นายวรวีร์ มะกูดี ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ร.ศ.ดร. อิสมาอิลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี นายดำรง พุฒตาล ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา (กิตติมศักดิ์) นายสามารถ บุญธราทิพย์ ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา (กิตติมศักดิ์) นายธงชาติ รัตนวิชา ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นางสาวฟารีดา สุไลมาน คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุธีรพันธ์ สุขวัฒนชัย ที่ปรึกษาในคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นางสาวสตีจิตร ไตรพิบูลย์สุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นางบุญฑริกา ชุณหะนันทน์ ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ และนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง
ประธานรัฐสภา กล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลามด้วยความยินดี พร้อมกล่าวถึงปี 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ได้พบปะหารือกับมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรี ซาอุดีอาระเบีย มีการลงนามในความร่วมมือด้านต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ปี 2567 รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมาลงทุนในประเทศจำนวนกว่าสามแสนล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียจำนวนกว่า สองแสนคนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย การเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของรัฐมนตรีว่าการฯ จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทั้งด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา ทั้งสองประเทศมีกลุ่มมิตรภาพฯ ระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันคือ ระหว่างวันที่ 4 - 7 กุมภาพันธ์ 2568 ประธานสภาที่ปรึกษาซาอุดีอาระเบียจะเดินทางมาเยือนประเทศไทย หลังจากที่เคยเดินทางมาเยือนรัฐสภาไทยแล้วครั้งหนึ่ง และระหว่างวันที่ 16 - 20 มกราคม 2567 ประธานรัฐสภาได้เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียแล้วเช่นกัน สำหรับวิสัยทัศน์ 2030 ของซาอุดีอาระเบียนั้น เป็นประโยชน์ต่อทุกประเทศในโลก ตามหลักการของศาสนาอิสลามที่เน้นย้ำถึงสันติภาพ ความเป็นสายกลาง สันติสุข ความรัก และความเป็นพี่น้องระหว่างกัน เป็นหลักการที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนในหลายประเทศ พร้อมขอบคุณซาอุดีอาระเบียที่ได้มอบทุนการศึกษาให้นักศึกษาชาวไทยปีละหลายทุน และให้โควตาชาวไทยมุสลิมเดินทางไปทำพิธีฮัจญ์จำนวนปีละกว่าหนึ่งหมื่นคน นอกจากนี้ ยังได้เรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการฯ เดินทางไปเยือนภาคใต้เพื่อเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยฟาฏอนีและบ้านเกิดของประธานรัฐสภาที่จังหวัดยะลา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม กล่าวขอบคุณที่ให้เกียรติเข้าพบในวันนี้ พร้อมกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ดำเนินไปอย่างก้าวกระโดด ภายหลังจากที่ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดังเดิมและดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เป็นไปตามพระราชปณิธานของกษัตริย์และมกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบีย ที่ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย - ซาอุดีอาระเบีย มีความแน่นแฟ้นในทุกมิติ กระทรวงกิจการศาสนาอิสลามของซาอุดีอาระเบียมีนโยบายยึดทางสายกลาง ลดความเกลียดชัง ขจัดแนวคิดสุดโต่ง เพื่อให้มนุษยชาติมีความสุข มั่นคงสถาพร เน้นความสมานฉันท์ ให้เกียรติบุคคลอื่น ทั้งนี้ เนื่องจากซาอุดีอาระเบียเป็นจุดกำเนิดของศาสนาอิสลาม มุ่งเน้นการเผยแผ่ศาสนาอิสลามตามหลักการที่ถูกต้อง ยึดหลักการของศาสนาและคัมภีร์อัลกุรอ่านในการดำเนินชีวิต พร้อมกล่าวอวยพรให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศพัฒนาอย่างต่อเนื่องและกล่าวเรียนเชิญประธานรัฐสภาเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นการส่วนตัวด้วยเช่นกัน เพื่อจะได้มีเวลาหารือกันในหลายเรื่อง พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณที่ประธานรัฐสภาเชิญเยือนภาคใต้ และยินดีจะมาเยือนไทยอีกครั้งหากมีโอกาส
เครดิตข่าว : กลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เรียบเรียง : กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร