นายธงชาติ รัตนวิชา เลขานุการประธานรัฐสภา รับยื่นหนังสือขอให้รัฐสภาใช้อำนาจตรวจสอบการจัดประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz และ 2300 MHz ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ฯ ส่งผลเสียต่อประโยชน์ของรัฐและประชาชน

Image
Image
Image
Image
Image
Image
Image
Image
Image
วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา  นายธงชาติ รัตนวิชา เลขานุการประธานรัฐสภา รับยื่นหนังสือจากนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม เรื่อง ขอให้รัฐสภาใช้อำนาจตรวจสอบการจัดประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz และ 2300 MHz ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้มีการออกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz ลงราชกิจจานุเบกษา วันที่ 28 เมษายน 2568 มีผลใช้บังคับวันที่ 30 เมษายน 2658 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการกิจกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz ลงวันที่ 29 เมษายน 2568  ผลของการออกประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้ ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ ผู้บริโภคในฐานะประชาชน ด้วยเหตุที่กล่าวในข้างต้น  จึงขอให้ประธานรัฐสภา ในฐานะองค์อธิปัตย์ในอำนาจอธิปไตยทางนิติบัญญัติซึ่งได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน ได้โปรดใช้อำนาจเรียกทาง กสทช. มาชี้แจงและตรวจสอบการกระทำที่ส่งผลเสียต่อประโยชน์ของรัฐและประชาชนผ่านทางคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจกระทำกิจการ พิจารณา สอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและการพัฒนาด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมาตรา 129 วรรคหนึ่งแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และข้อ 90 (34) แห่งข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 และขอให้ ทาง กสทช. ดำเนินการและกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ ดังนี้ 
1. ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งและอำนาจที่ชอบของรักษาการเลขาธิการสำนักงาน กสทช. 
2. จัดบริการสำรองคลื่นความถี่ที่เป็นทรัพยากรของชาติเพื่อประโยชน์ให้ประชาชนและสาธารณะใช้ประโยชน์ ตามมาตรา 60 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เผื่อมีเหตุสุดวิสัย เช่น อินเทอร์เน็ตของเอกชนล่ม เนื่องจากหากการประมูลคลื่นครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะก่อให้เกิดการผูกขาดอย่างน้อย 15 ปี ตามอายุใบอนุญาต 
3. มอบหมายให้คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการจัดประชุมหารือผลกระทบของการประมูลคลื่นความถี่ ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาองค์กรของผู้บริโภค กสทช. บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอไอเอส และ ทรู รัฐวิสาหกิจ เอ็นที และผู้ให้บริการ MVNO เพื่อจัดทำแผนรองรับผลกระทบของประชาชนผู้ใช้ทรัพยากรของชาติ 

นายธงชาติ รัตนวิชา  กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ตนมารับหนังสือแทน เนื่องจากประธานสภาผู้แทนราษฎรติดภารกิจสำคัญ และจะนำเรื่องดังกล่าวกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป