โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือคัดค้านกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า จากกลุ่มสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย และ ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร

วันพฤหัสบดีที่ 13  มีนาคม 2568 เวลา 10.42 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร  รับยื่นหนังสือคัดค้านกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า จาก ซิสเตอร์กาญจนา สิงห์สา ผู้แทนจากสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย เรื่องคัดค้านบุหรี่ไฟฟ้า สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทยขอยืนยันถึงเจตนารมณ์ของโรงเรียนคาทอลิก จำนวน 387 แห่งทั่วประเทศไทย ที่มุ่งพัฒนาการศึกษาเพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยเติบโตควบคู่ไปกับคุณธรรมแห่งศาสนา สู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย สติปัญญา จิตใจ และจิตวิญญาณเป็นผู้ที่สนใจความเป็นไปของสังคม และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสังคม โรงเรียนคาทอลิกตระหนักดีถึงภาวะการณ์ปัจจุบันที่เด็กและเยาวชนถูกคุกคามจากบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่ง ทำให้เด็กและเยาวชนมีความเสี่ยงทางสุขภาพและความเสี่ยงต่อการเสพสิ่งเสพติดชนิดอื่น ๆ การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่นักเรียนและการแอบนำเข้ามาในโรงเรียน ที่แม้ทางโรงเรียนจะกวดขันอย่างจริงจัง แต่ด้วยการตลาดที่แยบยล เลียนแบบสิ่งของเครื่องใช้ใกล้ตัว หรือการออกแบบรูปลักษณ์ให้เหมือนของเล่น เช่น แฟลชไดร์ฟ ขนม ตัวตุ๊กตา ตัวการ์ตูน หุ่นยนต์ ของสะสม พวงกุญแจ ซึ่งทำให้ยากต่อการรู้เท่าทันและการตรวจค้น ด้วยเหตุนี้ โรงเรียนในเครือคาทอลิกจึงพร้อมที่จะก้าวไปด้วยกันและให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างกล้าหาญในการดูแลและปกป้องเด็กและเยาวชนอย่างจริงจังจากบุหรี่ไฟฟ้าและสิ่งเสพติดทั้งหลาย ดังนั้น สภาการศึกษาคาทอลิกจึงดำเนินการขับเคลื่อนโครงการป้องกันและควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนักเรียนและโรงเรียนอย่างจริงจัง พยายามที่จะทำความเข้าใจและรู้เท่ากันการเปลี่ยนแปลงเพื่อสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ให้เกิดประสิทธิผลในการปกป้องพวกเขา แต่ก็พบว่าเป็นการยากที่โรงเรียนจะดำเนินการได้ หากสังคมไม่ร่วมมือกันอย่างจริงจังและไม่มีกฎหมายที่มีประสิทธิผล สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้โปรดปกป้องเด็ก เยาวชน จากบุหรี่ไฟฟ้า และสิ่งเสพติดทุกชนิดที่อันตรายต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต ด้วยการมีกฎหมายและมาดรการที่เด็ดขาดในการควบคุมการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และให้มีการดำเนินการอย่างจริงจังเพื่ออนาคดและคุณภาพชีวิตของเด็กไทย 

จากนั้น รับยื่นหนังสือจาก นางวิศัลย์ศิริ ตันตระกูล ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร เรื่องคัดค้านการออกกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า กรณีที่มีเด็กนักเรียนติดบุหรี่ไฟฟ้าเสียชีวิตตามที่ปรากฏเป็นข่าว ตนในฐานะอาสาสมัครสาธารณสุข ที่เฝ้าระวังและรณรงค์การเสพสารเสพติดทุกชนิด มีความคิดว่าควรจะต้องหาความร่วมมือและทางออกร่วมมือ ในการป้องกันเฝ้าระวัง ซึ่งภาคการเมืองเป็นส่วนสำคัญในการจัดการเรื่องนี้ รวมทั้งประชาชนและภาคประชาสังคม ต้องช่วยกันดำเนินการ เพื่อไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพทุกคน ทางกลุ่ม อสม. รวมทั้งผู้ปกครอง เยาวชน นิสิต นักศึกษา ไม่มีใครเห็นด้วยกับกฎหมายฉบับดังกล่าว จึงขอให้สภาฯ ช่วยยับยั้งกฎหมายดังกล่าว

ด้าน โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร  กล่าวขอบคุณทุกกลุ่ม ที่ได้มายื่นหนังสือในวันนี้ ที่มีความห่วงใยนำเสนอมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า ตนจะนำเรื่องนี้กราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ดำเนินการโดยด่วน เพราะเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นภัยอันตรายที่จะรอช้าไม่ได้