ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองฯ เป็นตัวแทนประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากประธานชมรมสันติประชาธรรม ขอให้สภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยหามาตรการเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นงานสอบสวนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรม
4 มีนาคม 2568
วันอังคารที่ 4 มีนาคม 2568 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม และคณะ เรื่อง ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับปรุงการทำงานในการอำนวยความยุติธรรมในชั้นพนักงานสอบสวน และขอให้สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องหามาตรการเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับงานสอบสวนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรม
เนื่องด้วยทางชมรมฯ ได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวนมากเกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรมต้นทางโดยเจ้าหน้าที่ดำรวจ โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่เกิดเหตุที่ในปัจจุบันนี้มีภาระงานมากไม่สอดคล้องกับจำนวนบุคลากร งบประมาณ ประกอบกับระบบการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นระบบกล่าวหาทำให้พนักงานสอบสวนต้องใช้ดุลพินิจพิเคราะห์ข้อมูลของฝ่ายผู้กล่าวหาฝ่ายเดียว หากมีมูลก็ทำสำนวนส่งฟ้องโดยมิได้ได้ให้โอกาสอีกฝ่ายได้มีโอกาสชี้แจง ซึ่งสร้างความไม่เป็นธรรมและเป็นภาระในการจัดหาทนายความเพื่อต่อสู้คดี และตกเป็นผู้กล่าวหาจนกลายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลายครั้งเมื่อมีผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีโดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงหรือถูกหลอกลวง มักจะถูกปฏิเสธ หรือให้รอนานกว่าจะได้สอบปากคำ บางกรณีรอเป็นปี ทั้งที่เป็นความเดือดร้อนและได้รับความเสียหายอย่างหนัก หรือแม้แต่กรณีอรรรถคดีพื้นฐาน ดังกรณีผู้ร้องเรือนของนางสาวณัฐชา อัญหิรัณย์ชาติ ซึ่งได้ไปแจ้งความคดีหมิ่นประมาทที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ จากนั้นมีการเรียกสอบปากคำหลายต่อหลายครั้ง และมีการส่งมอบเอกสารให้หลายครั้งจนคดีความล่วงเลยมาถึงปี 2568 ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ซึ่งได้ทราบจากทางตำรวจจะมีการออกหมายเรียกตั้งแต่ปี 2567 แต่ในความเป็นจริงคือจนถึงบัดนี้ไม่มีการออกหมายเรีอกแต่อย่างใด ไม่มีการดำเนินใด ๆ ทางชมรมฯ เข้าใจถึงข้อจำกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งเรื่องบุคลากรและงบประมาณ จึงขอให้ทางสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ช่วยหามาตรการเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะในงานสอบสวนระดับของเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการที่ในปัจจุบันต้องเผชิญกับความเครียดและความกดดันในการทำงานอย่างหนัก ด้วยการปรับปรุงแผนเพื่อเพิ่มจำนวนบุคลากรและงบประมาณ รวมถึงพัฒนาศักยภาพในการทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรมในชั้นการสอบสวน ซึ่งเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย หากสามารถหามาตรการที่ช่วยทำให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้จริง ย่อมสร้างความสงบสุขได้อย่างแท้จริง และคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน
ด้าน นายเจษ อนุกูลโภคารัตน์ กล่าวขอบคุณทางคณะที่มายื่นหนังสือที่เชื่อมั่นในระบบตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ตนเป็นตัวแทนของประธานฯ มารับหนังสือ โดยจะตรวจสอบความถูกต้องตามกระบวนการ และจะนำกราบเรียนประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป