คณะกรรมการความปลอดภัยทางถนนฯ ของรัฐสภา ยื่นข้อเสนอ 4 มาตรการต่อนายกรัฐมนตรี รับมือเทศกาลสงกรานต์ 2568 เน้นคุมเข้ม 10 วันระวังอันตราย แนะบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด เพิ่มความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐานทางถนน จัดตั้งศูนย์อำนวยการฯ ทุกระดับ และ "ดื่มไม่ขับ"

Image
Image
Image
วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2568 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาและกรรมการในคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนของรัฐสภา พร้อมด้วย นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการฯ ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานกรรมการฯ ได้เสนอแนวทางป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี  และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) เพื่อเตรียมมาตรการรับมือช่วง  10 วันระวังอันตรายเทศกาลสงกรานต์ 11 - 20 เมษายน 2568   ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยเฉพาะด้าน  Soft Power ซึ่งสงกรานต์เป็นหนึ่งในประเพณีสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องมีความปลอดภัยในการเดินทาง อีกทั้งประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา ทางคณะกรรมการฯ จึงได้นำเสนอ 4 มาตรการสำคัญไปยังนายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะประธาน นปถ. เพื่อเสริมความปลอดภัยทางถนนและลดอุบัติเหตุช่วง 10 วันระวังอันตรายเทศกาลสงกรานต์นี้ อย่างเป็นรูปธรรม
 
สำหรับ 4 มาตรการ รับมือ 10 วันระวังอันตราย สงกรานต์ 2568 ที่คณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน ของรัฐสภาส่งถึงรัฐบาล ประกอบด้วย การบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด เน้นมาตรการด้านกฎหมายควบคุมพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งการไม่สวมหมวกนิรภัย การขับรถเร็ว และการดื่มแล้วขับใช้บทลงโทษสูงสุดกับผู้ฝ่าฝืน ขยายผลสอบสวนถึงผู้จำหน่ายสุราให้เยาวชน พร้อมเสนอเพิ่มอัตราโทษกรณีขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ รวมถึงมาตรการด้านโครงสร้างพื้นฐานและยานพาหนะ โดยเร่งแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุซ้ำซาก ซ่อมถนนชำรุด เพิ่มความปลอดภัยจุดตัดทางรถไฟ ควบคู่กับการสุ่มตรวจรถโดยสารที่ใช้แก๊สหรือก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ตรวจสอบความพร้อมคนขับรถโดยสาร และมาตรฐานรถกู้ชีพฉุกเฉิน พร้อมทั้ง "รณรงค์ดื่มไม่ขับ" ซึ่งเป็นมาตรการด้านการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ผลักดันแนวคิด  "ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ" โดยประสาน รพ.สต. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 7,850 แห่ง ร่วมประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าและประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนวางมาตรการด้านการบริหารจัดการ กำหนดช่วงคุมเข้ม 10 วัน จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทุกระดับ เพิ่มด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยให้ อสม. ร่วมกับฝ่ายปกครองเข้าถึงชุมชนพื้นที่เสี่ยง พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและเฝ้าระวัง ทั้งนี้ ยังมีการบูรณาการทุกภาคส่วนลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน มาตรการทั้งหมดนี้มุ่งบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการเดินทางจำนวนมาก ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติตามแนวทางที่เสนอไป เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่ามาตรการดังกล่าวไม่เพียงช่วยลดความสูญเสีย แต่ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ค่าเสียโอกาส และผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งสูงถึงหลักหมื่นล้านบาทต่อปี ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี เรามักพบว่าจำนวนอุบัติเหตุและการเสียชีวิตสูงขึ้น โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ซึ่งเราจะต้องร่วมกันลดลงมาให้ได้ นี่คือเหตุผลที่เราทุกฝ่ายจะต้องประสานกันอย่างไร้รอยต่อ ตั้งแต่ตำรวจ กรมทางหลวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สาธารณสุข จนถึงภาคเอกชนและประชาชน
 
ด้านนายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายฯ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการได้มีการพิจารณาแผนและนโยบายการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 รวมถึงแนวทางป้องกันจากอุบัติเหตุ การเตรียมความพร้อมด้านการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมควบคุมโรค มาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อคณะอนุกรรมการ นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการยังรับฟังผลการดำเนินการตามแผนและนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาอีกด้วย เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับปีใหม่ 2567 พบว่า จำนวนอุบัติเหตุ จำนวน 2,467 ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.69 จำนวนผู้บาดเจ็บ 2,376 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.34 และจำนวนผู้เสียชีวิต 436 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.92 โดยมีสาเหตุเกิดอุบัติเหตุสูงสุด จากการขับรถเร็ว ตัดหน้าประชันชิด ดื่มแล้วขับ ส่วนประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถโดยสารสาธารณะ เมื่อเกิดขึ้นบนถนนหลวง ถนนในหมู่บ้าน ถนนในเมือง นอกจากนี้ ยังพบสาเหตุอื่นหรือพฤติกรรมจากความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การแซงในที่คับขัน การไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รถไม่มีความพร้อม ทัศนวิสัยไม่ดี ใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร อาทิ ขับย้อนศร  ไม่ชำนาญเส้นทาง ขับรถโดยประมาณหน้าหวาดเสียว ดังนั้น เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนโดยป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์ปี 2558 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ คณะอนุกรรมการจึงมีข้อเสนอแนะแนวทางการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุ เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน ดังนี้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุทุกกรณี เจ้าพนักงานตำรวจจะต้องดำเนินคดีในทุกข้อหาตามฐานความผิด และต้องตรวจสอบคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เกี่ยวกับผู้ขับขี่ และยานพาหนะกันเกิดเหตุ เช่น ผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้องหรือไม่ คาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่สำหรับรถยนต์ สวมหมวกนิรภัยหรือไม่สำหรับรถจักรยานยนต์ ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่ เมาสุรา หรือเสพสารเสพติดหรือไม่ ส่วนยานพาหนะ มีพระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  พ.ศ. 2535 หรือไม่ มีการชำระภาษีประจำปีหรือไม่ ดัดแปลงสภาพรถหรือไม่ อุปกรณ์ครบถ้วนสมบูรณหรือไม่ เป็นรถที่ถูกโจรกรรมหรือใช้ในการกระทำความผิดหรือไม่ ถ้าเป็นรถของผู้อื่นแต่ผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จะต้องดำเนินคดีเจ้าของรถ ด้วย รวมทั้งกรณีผู้ขับขี่เป็นเด็กจะต้องดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 อีกด้วย หากมีการดำเนินการตามแนวดังกล่าวจะเป็นผลให้มีการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างครบถ้วน กล่าวคือ ต้องให้ประชาชนรับรู้ว่า หากผู้ใดกระทำความผิดตามที่กล่าวมา ก็จะต้องพิจารณาลงโทษทุกข้อกล่าวหา ทั้งตัวบุคคลผู้ขับขี่และยานพาหนะ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเก็บข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนทุกกรณี และดำเนินคดีตามแนวดังกล่าว จึงจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่ครบถ้วนและเสมอภาค และเป็นธรรม
 
ท้ายนี้ คณะอนุกรรมการ ขอฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนทุกท่าน ขณะนี้ใกล้จะถึงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีวันหยุด ยาวติดต่อกัน ซึ่งมักจะมีอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากทุกปี คณะอนุกรรมการขอความกรุณาจากประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน ได้โปรดปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป