สส.สมชาติ เตชถาวรเจริญ แถลงข่าวกรณีที่นายกรัฐมนตรีปัดตกร่าง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และถามหาความจริงใจของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่จะกระจายอำนาจและกระจายเงินงบประมาณให้กับท้องถิ่น
วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2568 เวลา 14.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา ว่าที่ร้อยตรี สมชาติ เตชถาวรเจริญ สส. จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีที่นายกรัฐมนตรีปัดตกร่าง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ตนและ สส.พรรคประชาชนได้ยื่นเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567
โดยสาเหตุที่ต้องยื่นแก้ไข พ.ร.บ.นี้ เนื่องจากปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่เฉพาะจังหวัดภูเก็ต กำลังขาดรายได้ที่จะนำไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของตนเอง ซึ่งมาตรา 62 ของกฎหมายเดิมคือ พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562 กฎหมายได้เขียนไว้ดีแล้วแต่ยังไม่รัดกุมเพียงพอ แต่เดิมนั้น พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด มาตรา 62 กำหนดว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บตามประมวลรัษฎากรจัดเก็บได้ในจังหวัดใดให้ส่งมอบให้แก่องค์กรบริหารส่วนจังหวัดร้อยละ 5 ของภาษีที่จัดเก็บได้ แต่ในทางปฏิบัติ กรมสรรพากรให้สิทธิผู้ประกอบการในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน ณ สำนักงานใหญ่ ทำให้เงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ควรต้องตกมายังท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศแต่ละแห่งทุกจังหวัดไม่ได้รับส่วนแบ่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้เป็นที่มาว่าเหตุใดจึงต้องมีการยื่นแก้ไข พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยในมาตรา 62 ที่พรรคประชาชนได้ยื่นแก้ไข มีถ้อยความว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้จากสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในจังหวัดใด ให้ส่งมอบให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยละ 5 ของภาษีที่จัดเก็บได้ ทั้งนี้ หากรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรียอมรับการแก้ไขในจุดนี้จะทำให้รายได้มหาศาลกลับไปสู่ท้องถิ่นและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง ซึ่งหลังจากวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ได้ยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ต่อมา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ตนได้ยื่นกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีเรื่อง การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง มาตอบกระทู้ถาม ซึ่ง รมช.การคลังได้ยืนยันว่าสามารถทำได้โดยการแก้กฎหมายหากต้องการกระจายรายได้เงินภาษีมูลค่าเพิ่มไปสู่ท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแต่วันนี้ตนได้รับหนังสือ มีข้อความระบุว่า มีบัญชาไม่รับรองร่าง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ตนและคณะเป็นผู้เสนอ จึงสรุปว่า รมช.การคลัง ระบุว่าสามารถแก้กฎหมายได้แต่สุดท้ายนายกรัฐมนตรีปัดตกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่ได้แก้ไขเพียงมาตราเดียวเท่านั้น จึงขอเน้นย้ำว่า วันนี้แต่ละจังหวัดทั่วทั้งประเทศทุกจังหวัด โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต มีปริมาณขยะล้นเมือง จ.ภูเก็ตมีเตาเผาขยะ 1 ชุด มี 2 เตา เผาได้เตาละ 350 ตัน รวมแล้ว 750 ตันต่อวัน แต่ปรากฏว่า จ.ภูเก็ตวันนี้มีขยะวันละ 1,400 ตัน ที่เหลืออีก 700 ตันเข้าสู่บ่อฝังกลบ แทนที่จะนำเงินในส่วนนี้มาสร้างเตาเผาขยะที่รองรับขยะและปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ ยังสามารถนำเงินมาพัฒนาและบริหารจัดการระบบขนส่งสาธารณะให้มีความสะดวก ปลอดภัย จึงต้องการถามหาความจริงใจของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้ว่ามีความจริงใจมากน้อยเพียงใดที่จะกระจายอำนาจและกระจายเงินงบประมาณให้กับท้องถิ่น
โดยสาเหตุที่ต้องยื่นแก้ไข พ.ร.บ.นี้ เนื่องจากปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่เฉพาะจังหวัดภูเก็ต กำลังขาดรายได้ที่จะนำไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของตนเอง ซึ่งมาตรา 62 ของกฎหมายเดิมคือ พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2562 กฎหมายได้เขียนไว้ดีแล้วแต่ยังไม่รัดกุมเพียงพอ แต่เดิมนั้น พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด มาตรา 62 กำหนดว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บตามประมวลรัษฎากรจัดเก็บได้ในจังหวัดใดให้ส่งมอบให้แก่องค์กรบริหารส่วนจังหวัดร้อยละ 5 ของภาษีที่จัดเก็บได้ แต่ในทางปฏิบัติ กรมสรรพากรให้สิทธิผู้ประกอบการในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน ณ สำนักงานใหญ่ ทำให้เงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ควรต้องตกมายังท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศแต่ละแห่งทุกจังหวัดไม่ได้รับส่วนแบ่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้เป็นที่มาว่าเหตุใดจึงต้องมีการยื่นแก้ไข พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยในมาตรา 62 ที่พรรคประชาชนได้ยื่นแก้ไข มีถ้อยความว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้จากสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในจังหวัดใด ให้ส่งมอบให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยละ 5 ของภาษีที่จัดเก็บได้ ทั้งนี้ หากรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรียอมรับการแก้ไขในจุดนี้จะทำให้รายได้มหาศาลกลับไปสู่ท้องถิ่นและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง ซึ่งหลังจากวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ได้ยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ต่อมา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ตนได้ยื่นกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีเรื่อง การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง มาตอบกระทู้ถาม ซึ่ง รมช.การคลังได้ยืนยันว่าสามารถทำได้โดยการแก้กฎหมายหากต้องการกระจายรายได้เงินภาษีมูลค่าเพิ่มไปสู่ท้องถิ่นแต่ละจังหวัดแต่วันนี้ตนได้รับหนังสือ มีข้อความระบุว่า มีบัญชาไม่รับรองร่าง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ตนและคณะเป็นผู้เสนอ จึงสรุปว่า รมช.การคลัง ระบุว่าสามารถแก้กฎหมายได้แต่สุดท้ายนายกรัฐมนตรีปัดตกร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ที่ได้แก้ไขเพียงมาตราเดียวเท่านั้น จึงขอเน้นย้ำว่า วันนี้แต่ละจังหวัดทั่วทั้งประเทศทุกจังหวัด โดยเฉพาะ จ.ภูเก็ต มีปริมาณขยะล้นเมือง จ.ภูเก็ตมีเตาเผาขยะ 1 ชุด มี 2 เตา เผาได้เตาละ 350 ตัน รวมแล้ว 750 ตันต่อวัน แต่ปรากฏว่า จ.ภูเก็ตวันนี้มีขยะวันละ 1,400 ตัน ที่เหลืออีก 700 ตันเข้าสู่บ่อฝังกลบ แทนที่จะนำเงินในส่วนนี้มาสร้างเตาเผาขยะที่รองรับขยะและปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ ยังสามารถนำเงินมาพัฒนาและบริหารจัดการระบบขนส่งสาธารณะให้มีความสะดวก ปลอดภัย จึงต้องการถามหาความจริงใจของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้ว่ามีความจริงใจมากน้อยเพียงใดที่จะกระจายอำนาจและกระจายเงินงบประมาณให้กับท้องถิ่น
