ประเทศ มาเลเซีย
ข่าวประจำวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘
หมวด การเมือง
กัวลาลัมเปอร์ – ติมอร์-เลสเตจะกลายเป็นประเทศสมาชิกอาเซียนลำดับที่ ๑๑ โดยจะได้รับการรับรองสถานะสมาชิกเต็มรูปแบบในการประชุมระดับภูมิภาคครั้งต่อไปที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในช่วงปลายปี ๒๕๖๘
นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ซึ่งประเทศของเขาเป็นประธานอาเซียนในปี ๒๕๖๘ ได้ประกาศเรื่องนี้ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม โดยระบุว่าติมอร์-เลสเตจะเป็นสมาชิกเต็มตัวของการรวมกลุ่มภูมิภาคในห้วงการประชุมอาเซียนที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ กล่าวว่า “มติคือติมอร์-เลสเตจะได้รับการยอมรับเป็นสมาชิกเต็มตัวในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนตุลาคม” และเสริมว่าเรื่องนี้ยังขึ้นอยู่กับการที่ติมอร์-เลสเต ยังจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มเติมอีก “หนึ่งหรือสองข้อ” ภายใต้เสาหลักเศรษฐกิจ
เขากล่าวว่าในที่สุดอาเซียนก็ได้บรรลุฉันทามติที่แท้จริงเกี่ยวกับติมอร์-เลสเตหลังจากการเจรจาที่ผ่านมาแล้วหลายรอบ
ติมอร์-เลสเตได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสหประชาชาติในปี ๒๕๔๕ ทำให้เป็นประเทศประชาธิปไตยที่อายุน้อยที่สุดในเอเชีย ประเทศที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์แห่งนี้มีประชากร ๑.๕ ล้านคน เริ่มกระบวนการเข้าร่วมอาเซียนในทันที แต่เพิ่งยื่นคำร้องขอเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในปี ๒๕๕๔
ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กัมพูชาในปี ๒๕๖๕ ติมอร์-เลสเตได้รับการยอมรับในหลักการให้เป็นสมาชิกลำดับที่ ๑๑ ของอาเซียนและได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์
ติมอร์-เลสเตตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกของเกาะติมอร์ ที่ปลายสุดด้านตะวันออกของหมู่เกาะอินโดนีเซีย ส่วนภาคตะวันตกเป็นของอินโดนีเซีย ก่อนที่จะได้รับเอกราชจากอินโดนีเซียในวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ติมอร์-เลสเตเคยเป็นหนึ่งในจังหวัดของอินโดนีเซียที่เรียกว่าติมอร์ตะวันออก
ปัจจุบัน ประเทศสมาชิกอาเซียน ๑๐ ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และฟิลิปปินส์
เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม หนึ่งวันก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีติมอร์-เลสเต โฮเซ รามอส-ฮอร์ตา ได้แสดงความขอบคุณที่การสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์-เลสเต ได้รับการยอมรับ
อดีตนักสู้เพื่อเอกราชวัย ๗๕ ปีและผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเขียนบนเฟซบุ๊ก
เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคมว่า “ในปี ๒๕๕๔ เมื่อผม ในฐานะประธานาธิบดีได้ลงนามในจดหมายแสดงเจตจำนงอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมอาเซียน ภายในติมอร์-เลสเตเองมีเพียงบางส่วนที่เข้าใจและเห็นด้วย ส่วนในอาเซียนก็ไม่ค่อยมีใครเห็นด้วย”
นายรามอส-ฮอร์ตากล่าวว่า “ผมขอขอบคุณผู้นำและเจ้าหน้าที่อาเซียนทุกคนทั้งในอดีตและปัจจุบัน อย่างสุดซึ้ง” นอกจากนี้ เขายังแสดงความยินดีกับผู้นำติมอร์-เลสเต “ในอดีตและปัจจุบัน” สำหรับความพยายามของพวกเขา รวมถึงผู้ที่ทำงานภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีซานานา กุสเมาในช่วงสองปีที่ผ่านมา
เขากล่าวเสริมว่า “และตอนนี้ เราต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น”
เส้นทางสู่การเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของประเทศที่ยังอายุน้อยนี้ล่าช้าเนื่องจากประเทศสมาชิกอาเซียนปัจจุบันมีความกังวลว่าประเทศนี้จะมีศักยภาพเพียงพอที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีอันเข้มงวดของอาเซียนหรือไม่ เช่น การเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับสูงและการปฏิบัติหน้าที่ในเชิงธุรการ
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อม ติมอร์-เลสเตจึงได้จัดตั้งสถานทูตของตนในเมืองหลวงของสมาชิกอาเซียนทุกประเทศภายในปี ๒๕๕๙
นายอันวาร์เน้นย้ำว่าอาเซียนจะยังคงมีส่วนร่วมกับทั้งวอชิงตันและปักกิ่งท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าและชิปที่ยังคงดำเนินอยู่ โดยได้ออกคำเชิญให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ด้วย
นายอันวาร์กล่าวว่า “หากผมได้รับจดหมายจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ระบุว่าเราจะมีการประชุมสุดยอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราก็ไม่มีปัญหาอะไร”
นายอันวาร์กล่าวสรุปการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๔๖ ซึ่งจัดขึ้นในเมืองหลวงของมาเลเซียตั้งแต่วันที่ ๒๖-๒๗ พฤษภาคมว่า “จะทำงานร่วมกับจีนหรือไม่? ใช่ เราจะทำ จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ หรือไม่? ใช่ เราต้องทำ”
นายอันวาร์กล่าวว่าได้มีการหารือในระหว่างการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างฟิลิปปินส์ และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีน ในเรื่องประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ และเสริมว่าเขาค่อนข้างมองในแง่ดีเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมที่ “ชัดเจนและเป็นบวก” ซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณอาเซียนที่ฟื้นคืนมา
นายอันวาร์กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นกับการหารือ (เกี่ยวกับทะเลจีนใต้) ที่จริงจังมากขึ้น เราพูดถึงการทำงานร่วมกัน แต่เมื่อต้องตัดสินใจร่วมกันภายในอาเซียนเพื่อปกป้องอาณาเขตของตนเองหรือแก้ไขปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เราก็ไม่ได้มีมุมมองเดียวกันเสมอไป”
ที่มาของข่าว : https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/timor-leste-to-be-granted-full-asean-membership-in-oct-2025-pm-anwar
ผู้แปล นายวิทวัส ฮมภิรมย์ นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ
กลุ่มงาน ภาษาอังกฤษ
ผู้ทาน นางสาวศิรสา ชลายนานนท์ นักวิเทศสัมพันธ์เชี่ยวชาญ
ผู้ตรวจ นายธนูคม บำรุงผล ผู้อำนวยการสำนักภาษาต่างประเทศ
สำนักภาษาต่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร