3 วิธี ช่วยให้อินโดนีเซียทำฟาร์มสัตว์น้ำได้มากขึ้นแต่ส่งผลกระทบต่อท้องถิ่นน้อยลง

ประเทศ   อินโดนีเซีย
ข่าวประจำวันที่
  ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖
 หมวด  สังคม

          การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในอินโดนีเซียผลิตปลาได้มากกว่าการทำประมงโดยการจับปลาแบบดั้งเดิมถึงสองเท่า ด้วยวิธีการนี้ทำให้อาหารจากทะเลเพิ่มขึ้นจาก ๒.๔ ล้านตัน ในปี ๒๕๕๓ เป็น ๖.๔ ล้านตัน ในปี ๒๕๖๒
          อินโดนีเซียตั้งเป้าว่า จะทำให้ปริมาณผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ ๑๐.๔ ต่อปีในปี ๒๕๖๗ ในขณะที่การทำประมงด้วยการจับสัตว์น้ำจากธรรมชาติกำลังชะลอตัวลงทั่วโลก การประมงแบบดั้งเดิมได้เปลี่ยนไปสู่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งสร้างอาหารทะเลถึงร้อยละ ๔๙ ให้แก่โลก ถือเป็นภาคการผลิตอาหารที่เติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาประเทศที่อินโดนีเซียให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ
          อย่างไรก็ตาม การเติบโตของการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมาพร้อมกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รวมถึงการรุกล้ำทำลายป่าชายเลนเพื่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการปล่อยของเสียจากการทำอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
          จากรายงานการศึกษา “แนวโน้มในการจัดการทรัพยากรทางทะเลและการประมงในอินโดนีเซีย” ฉบับล่าสุด ซึ่งเผยแพร่โดยสถาบันทรัพยากรโลกในอินโดนีเซีย แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศเพื่อความมั่นคงทางอาหาร เช่นเดียวกับความท้าทายในการบรรลุการจัดการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน
          รายงานดังกล่าวเปิดเผยว่า อินโดนีเซียผลิตอาหารจากสัตว์น้ำเกือบครึ่งหนึ่งจากฟาร์ม ทั้งจากฟาร์ม
น้ำจืด ฟาร์มน้ำกร่อย และฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเล โดยมากกว่าร้อยละ ๗๐ มาจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดเพื่อการบริโภคภายในประเทศ
          รายงานดังกล่าว ได้สรุปแนวทางเพื่อความเชื่อมั่นว่ามีการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ๓ ขั้นตอน โดยเน้นการเลี้ยงกุ้งและสาหร่ายทะเล
กุ้งเป็นสินค้าที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีมูลค่ามากที่สุดของอินโดนีเซีย และเป็นการประมงเพื่อการส่งออกอันดับต้น ๆ ของประเทศ ในขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตสาหร่ายมีศักยภาพในการเติบโตและสามารถเป็นแหล่งรายได้สำหรับชุมชนที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำ

. การวางแผนสู่ความร่วมมือและความสอดคล้อง
          อินโดนีเซียมีศักยภาพในการซ่อมบำรุงและฟื้นฟูเขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เสื่อมโทรมในปัจจุบันให้กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเพาะเลี้ยงกุ้ง เนื่องจากการเพาะเลี้ยงกุ้งเป็นสาเหตุหลักของความเสื่อมโทรมของป่าชายเลนในอินโดนีเซีย
          ความเสื่อมโทรมที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งทางเหนือของเกาะชวา ชายฝั่งตะวันออกของกาลิมันตัน และทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุลาเวสี
          ความมุ่งหมายของอินโดนีเซียในการเพิ่มผลผลิตการเพาะเลี้ยงกุ้งให้มากขึ้นเกือบสองเท่าเป็น ๒ ล้านตัน ภายในปี ๒๕๖๗ จะก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อป่าชายเลนทั่วประเทศอย่างแน่นอน
          เมื่อรัฐบาลตระหนักได้ถึงภัยคุกคามดังกล่าว จึงได้ประกาศใช้กฎกระทรวงการประสานงานเศรษฐกิจ ฉบับที่ ๔ ของปี ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นระเบียบปฏิบัติที่กำหนดเป้าหมายให้มีการฟื้นฟูป่าชายเลน ๑.๘ ล้านเฮกตาร์
          ดังนั้น เพื่อให้บรรลุทั้งเป้าหมายการผลิตและเป้าหมายการฟื้นฟู รัฐบาลจะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ รวมถึงการเพิ่มความเข้มข้นในการใช้ทรัพยากรที่มีเพื่อกระตุ้นการผลิตจากพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีอยู่แทนการขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
          กระทรวงกิจการทางทะเลและการประมงต้องร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาลระดับจังหวัด เพื่อให้แน่ใจว่าการวางแผนและการทบทวนแผนจะถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับลำดับความสำคัญของการพัฒนาของแต่ละจังหวัด
          เพื่อการนี้จังหวัดต่าง ๆ ในอินโดนีเซีย ๒๗ จังหวัด จึงได้บังคับใช้แผนการแบ่งเขตสำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะขนาดเล็ก (*RZWP3K) ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องวางแผนเพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่ชัดเจนระหว่างโซนต่าง ๆ รวมทั้งต้องมีการทบทวนแผนทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแนวชายฝั่งมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องมาจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและปัจจัยอื่น ๆ
          ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ชายฝั่งและทะเล เช่น ทรัพยากรทางทะเล แหล่งที่อยู่อาศัย และผู้ใช้งาน ต้องรวบรวมและจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ควรรวบรวมข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ช่วยให้การถ่ายโอนระหว่างหน่วยงานดำเนินการได้ง่ายเมื่อจำเป็น
          การจัดการข้อมูลที่ดีจะช่วยให้การตัดสินใจวางแผนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทำได้ดีขึ้น ซึ่งหมายความว่า จะต้องคำนึงถึงแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญของสัตว์น้ำ เช่น ป่าชายเลนและหญ้าทะเล รวมถึงลำดับความสำคัญอื่น ๆ ที่อาจต้องแย่งชิงพื้นที่กับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น การท่องเที่ยว และการขนส่งทางทะเล

. กำหนดนโยบายที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำประเภทต่าง ๆ
          การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแต่ละประเภทต้องการระบบการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทำฟาร์มสาหร่ายในภาคตะวันออกของอินโดนีเซียก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อระบบนิเวศหญ้าทะเลที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
          นอกจากนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างยุทธศาสตร์ระดับชาติเพื่อจัดการกับการแพร่กระจายของโรคที่สามารถลดผลผลิตของการเลี้ยงสาหร่ายทะเล ในเขตโคนาเวซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสุลาเวสี การผลิตสาหร่ายทะเลกำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคฟอกขาวในสาหร่าย (ice-ice bleaching disease)
          เพื่อสร้างความมั่นใจว่า สาหร่ายจะได้เติบโตอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืนทั่วประเทศอินโดนีเซีย ทางการจำเป็นต้องกำหนดนโยบายที่เหมาะสมกว่านี้ สิ่งที่ควรทำคือการกำหนดสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการทำฟาร์มและการแปรรูปภายในประเทศเพื่อยกระดับห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain)
         หากอินโดนีเซียสนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ แปรรูปผลิตภัณฑ์สาหร่ายภายในประเทศ ก็จะสามารถปรับปรุงมูลค่าการส่งออกและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าวมากขึ้น
 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
* RZWP3K หมายถึง Rencana Zonasi Wilayah Pesisir dan Pulau-Pulau Kecil แปลว่า แผนการแบ่งเขตสำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะขนาดเล็ก ซึ่งเป็นเครื่องมือในการจัดการพื้นที่ชายฝั่งและเกาะขนาดเล็ก ในการนำ RZWP3K ไปปฏิบัติ จะต้องอ้างถึงแผนการแบ่งเขตเชิงพื้นที่ระดับภูมิภาค RTRW (Rencana Tata Ruang Wilayah)

. การสร้างขีดความสามารถที่เข้าถึงได้
          การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของอินโดนีเซียมีศักยภาพในการเพิ่มการจ้างงาน รักษาการจ้างงานในพื้นที่ชนบท และสร้างงานที่มีเกียรติ
          อย่างไรก็ตาม ผลิตภาพแรงงานค่อนข้างต่ำ โดยมีค่าเฉลี่ยในการผลิตน้อยกว่า ๑ ตัน ต่อเกษตรกร
ผู้เลี้ยงปลา ๑ คน ในปี ๒๕๕๙ ซึ่งต่ำกว่าอัตราการผลิตในประเทศอื่น ๆ เช่น จีนและนอร์เวย์ซึ่งสูงกว่ามากที่ ๑๐ ตัน และ ๑๖๕ ตัน ตามลำดับ
          ดังนั้น รัฐบาลอาจจัดทำโครงการฝึกอบรมเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เน้นการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับระบบบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบเข้มข้น เพื่อแก้ไขปัญหานี้
          โครงการฝึกอบรมสามารถช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเข้าถึงและยอมรับการนำนวัตกรรมมาสู่แนวปฏิบัติ ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงการประกันเงินอุดหนุนที่ช่วยลดความเสี่ยง และสร้างแรงจูงใจในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อปรับปรุงผลผลิต
          โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถดังกล่าว ควรให้สตรีเข้ามามีส่วนร่วม เนื่องจากผู้หญิงเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการแปรรูปในอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ดังนั้น การฝึกอบรมให้พวกเธอในช่วงหลังการเก็บเกี่ยว ยังสามารถช่วยลดของเสียและการสูญเสียในขณะที่เพิ่มผลผลิตสุทธิ
          ในอนาคตคาดว่าการผลิตสัตว์น้ำของอินโดนีเซียจะเพิ่มปริมาณมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าการเติบโตดังกล่าวจะเป็นไปอย่างยั่งยืน สิ่งสำคัญคือต้องทำให้มีการวางแผนเชิงพื้นที่ชายฝั่งและทะเลที่สอดคล้องกัน ยกระดับนโยบายอุตสาหกรรมการผลิตสาหร่ายทะเล และสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการการเสริมสร้างศักยภาพของรัฐบาล
          การดำเนินการเหล่านี้จะทำให้มั่นใจได้ว่าอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารและส่งเสริมเศรษฐกิจในมหาสมุทร โดยไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมหรือชุมชนท้องถิ่น
----------------------------------------------------------------------
 
ผู้เขียนเรื่องนี้ คือ Ines Ayostina เป็นนักวิจัยของ Fox ที่Yale University และLucentezza Napitupulu เป็นผู้ช่วยที่ Universitas
Indonesia

ที่มาของข่าว : https://www.thejakartapost.com/opinion/2023/03/14/3-ways-to-help-indonesia-grow-more-seafood-from-aquaculture-with-less-localimpact.html
 
ผู้แปล นางอุมาพร  เพ็ชรเลิศจำรัส นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ
กลุ่มงานภาษาอังกฤษ
ผู้ทาน นายกิตติ เสรีประยูร ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานภาษาอังกฤษ
นางสาวศิรสา ชลายนานนท์ นักวิเทศสัมพันธ์เชี่ยวชาญ
ผู้ตรวจ นางสาวกฤษณี มาศรีจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักภาษาต่างประเทศ
 
 สำนักภาษาต่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
 


เจ้าภาพการประชุม

● สมัชชาใหญ่สหภาพลูกเสือรัฐสภาโลกครั้งที่ 9

○ ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรการประชุม
○ ข้อมูลการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพลูกเสือรัฐสภาโลก ครั้งที่ผ่านมา
○ ข้อมูลการเตรียมการเป็นเจ้าภาพของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

● การประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) ครั้งที่ 30

○ ข้อมูลเกี่ยวกับกรอบการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก
○ ข้อมูลการประชุมประจำปี APPF ครั้งล่าสุด 5 ปี

○ ข้อมูลการเตรียมการเป็นเจ้าภาพของรัฐสภาไทยในการจัดประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30


○ ข้อมูลการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30

● คณะกรรมาธิการว่าด้วยสังคมและวัฒนธรรมของสมัชชารัฐสภาเอเชีย

○ ภูมิหลังสมัชชารัฐสภาอาเซียน
○ ข้อมูลประเทศไทย
○ กฎบัตรและข้อบังคับการประชุม APA
○ คณะกรรมการเตรียมการประชุมฯ APA
○ ภาพกิจกรรมของคณะผู้แทนไทย