โฆษกคณะ กมธ. การที่ดินฯ รับยื่นหนังสือจากประชาชนผู้เดือดร้อน จากการออกเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนที่ดินทำกิน ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน ไม่มีรายได้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินให้กับประชาชน
20 กุมภาพันธ์ 2568
วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล โฆษกคณะ กมธ. การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับยื่นหนังสือจากนางจริญ เงางาม ประชาชนผู้เดือดร้อน และคณะ เพื่อขอให้คณะ กมธ. การที่ดินฯ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้สามารถเข้าทำประโยชน์ในที่ดินแปลงเดิมที่เคยครอบครองและทำประโยชน์มาก่อน
จากการที่สำนักงานเทศบาลห้วยงู อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท มีประกาศมิให้บุคคลเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตที่สาธารณประโยชน์บึงวงฆ้อง ตำบลห้วยงู จังหวัดชัยนาท ซึ่งที่ดินดังกล่าวเคยเป็นที่ดินเดิมของกลุ่มประชาชนที่เคยทำกินมาตั้งแต่ครั้ง ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้ว เมื่อสำนักงานเทศบาลตำบลห้วยงูได้มีประกาศดังกล่าว จึงมีผลทำให้เจ้าของที่ดินเข้าไปทำกินไม่ได้ และไม่สามารถประกอบอาชีพทำนาได้ จึงได้รวมกลุ่มกันร้องขอต่อทางเทศบาลฯ แต่ทางเทศบาลฯ ก็ไม่อนุญาต เมื่อไม่สามารถเข้าทำนา จึงเกิดปัญหาความเดือดร้อน ไม่มีที่ดินทำกิน ขาดรายได้ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวมกันถึงปัญหาหนี้สินต่าง ๆ รวมไปถึงการดูแลรักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน ถ้าไม่ได้ทำนาต่อก็มีผลกระทบในหลายครอบครัว จึงอยากขอความช่วยเหลือเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือเยียวยา ให้มีที่ดินทำกิน เพื่อประกอบอาชีพเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ทั้งนี้ทางกลุ่มยอมรับคำตัดสินของศาลฎีกาเรื่องการออกโฉนดทับซ้อน แต่ขอให้ช่วยหาพื้นที่ทำกินให้ หรือช่วยตรวจสอบความถูกต้องก่อนการทำรังวัด และออกโฉนดที่ดินการตัดสินของศาลจากกรณีดังกล่าว ส่งผลให้มีประชาชนถูกยึดคืนที่ดินคืนทั้งหมดหมดโดยไม่มีการชดเชยเยียวยาจากหน่วยงานรัฐ บางกลุ่มมีเอกสารการทำกินครบถ้วนแต่มีการออก น.ส.ล. ทับที่เกษตรกรที่ทำนาอยู่แล้ว และมีบางกลุ่มถูกที่ดินหายไป เนื่องจากมีการรังวัดแล้วแต่เมื่อศาลตัดสินแล้วเหลือที่ดินเพียง 1 - 2 ไร่ บางคนเหลือที่เดินเพียง 40 ตารางวาเท่านั้น เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ เป็นผู้ที่อยู่ดั้งเดิมมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่เมื่อไม่มีที่ดินก็ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ไม่มีรายได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร
นายณกร ชารีพันธ์ กมธ. กล่าวว่า ตนอยากจะสื่อสารไปยังรัฐบาลว่า วันนี้รัฐบาลมีอำนาจเต็มในการแก้ปัญหาที่ดิน ซึ่งบางครั้งการแก้ปัญหาที่ดินไม่ได้ใช้งบประมาณเพียงแค่ใช้มติคณะรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหา และการทำโครงการใด ๆ ในพื้นที่ ต้องให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม วันนี้เราพยายามทำทุกเรื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศคือการกระจายอำนาจ โดยการส่งมอบเอกสารสิทธิ์ในที่ดินให้กับประชาชนให้มีที่ดินในการประกอบอาชีพ ส่งมอบโอกาสและความมั่นคงที่แท้จริงให้กับประชาชน พี่น้องประชาชนอยู่มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า วันนี้ขอแค่สิทธิ์ในที่ดินของตนเอง จึงให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินให้ประชาชนด้วย
ด้านนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกประกาศที่ดิน น.ส.ล. ทับที่ของพี่น้องประชาขนในพื้น เกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทย คณะ กมธ. ไม่ได้นิ่งนอนใจจะรีบนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาโดยเร็วในขณะที่นักการเมืองมีที่ดินกว่า 40,000 ไร่ ประกาศได้ในที่ดินของกระทรวงต่าง ๆ แต่ชาวบ้านมีที่ดินเพียงไม่กี่ไร่แต่มีปัญหามากมาย ทั้งนี้จะมีการตั้งอนุ กมธ. เพื่อพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาการประกาศที่ดิน น.ส.ล. ทับที่ดินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลควรดำเนินการโครงการต่าง ๆ โดยคำนึงถึงพี่น้องในพื้นที่ เพราะทุกคนมีชีวิต มีลมหายใจ และมีครอบครัว