รองประธานคณะ กมธ.การต่างประเทศ คนที่หนึ่ง แถลงข่าวผิดหวังหน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลชุดนี้ไร้ประสิทธิภาพ ตอบสนองเหตุการณ์พม่ายิงเรือประมงไทยล่าช้า ขอให้ทำงานเชิงรุกมากกว่านี้
13 ธันวาคม 2567
วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ รองประธานคณะ กมธ.การต่างประเทศ คนที่หนึ่ง แถลงข่าวกรณีเรือรบพม่ายิงเรือประมงไทยและยึดเรือประมงไทยตรงบริเวณน่านน้ำทางทะเลอันดามัน ว่า เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) ที่ประชุมกมธ.การต่างประเทศได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศและสภาความมั่นคงมาชี้แจงและรายงานสถานการณ์ล่าสุด
เมื่อได้รับฟังคำชี้แจงและรับฟังสถานการณ์ล่าสุด รวมทั้งฟังการตอบคำถามของผู้ชี้แจงแล้ว เกิดความผิดหวังถึงความไร้ประสิทธิภาพในการตอบสนองเหตุการณ์ของหน่วยงานของไทยในเหตุการณ์ครั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้เหตุการณ์ผ่านมาเกือบสามสัปดาห์แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจากสองหน่วยงานนี้ ยังไม่ทราบว่าจุดที่เกิดเหตุเกิดขึ้นตรงไหน โดยไม่รู้ว่าเกิดในน่านน้ำไทยหรือในน่านน้ำของพม่า จึงตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าไม่รู้ว่าจุดเกิดเหตุ เกิดที่ใด หมายความว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเรือประมงไทยทั้งหมด 5 ลำและถูกทหารเรือพม่าจับไป 1 ลำนั้น รุกล้ำน่านน้ำของพม่าหรือไม่ หรือแท้จริงแล้ว ตอนถูกยิงเรือประมงไทยนั้นอยู่ในน่านน้ำไทย หากเป็นเช่นนี้จะประท้วงพม่าว่าอย่างไร
นอกจากนี้ ทางการไทยได้ขอให้พม่าสอบสวนเรื่องนี้ แต่ทางการไทยยังไม่มีการตั้งคณะทำงานของไทยขึ้นมาสอบสวนว่าจริง ๆ แล้วเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำของพม่าจริงหรือไม่ หากไม่ตั้งคณะสอบสวนของไทยขึ้นมา และรอฟังผลการสอบสวนของฝ่ายพม่า แน่นอนว่าผลการสอบสวนของฝ่ายพม่าต้องเป็นเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำของเขา การตั้งคณะสอบสวนฝ่ายไทยก็ไม่ได้กระทบกับความปลอดภัยของลูกเรือประมงไทย 4 คน ที่ยังถูกทหารพม่าจับไว้ เพราะเป็นเรื่องภายในของไทยที่สอบหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งได้สอบถามผู้ชี้แจงว่า มีเรือที่หนีรอดมาได้ 4 ลำ ได้สอบหาข้อเท็จจริงจากเรือประมงที่รอดมาได้หรือไม่ ทางคณะก็ไม่สามารถตอบได้ จึงขอแสดงความผิดหวังถึงความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลชุดนี้ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นการรุกล้ำอธิปไตยในน่านน้ำไทย ตนในฐานะอยู่ใน กมธ.การต่างประเทศ ขอถามไปยัง รมว.การต่างประเทศ ว่าทางกระทรวงฯ การทำได้แค่ส่งบันทึกให้ทางพม่าสอบสวนเรื่องนี้และรอให้พม่าปล่อยคนไทยเท่านั้นหรือไม่ กระทรวงฯ จะมีการปฏิบัติเชิงรุก ใช้วิธีการทางการทูตที่แสดงความแข็งกร้าว ไม่ยอมให้มีการละเมิดน่านน้ำไทยหรือไม่ การกำหนดท่าทีและนโยบายการต่างประเทศของไทยที่ไม่ชัดเจนจะก่อปัญหาให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยมาโดยตลอด มักกลัวเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ถูกนำมาใช้เพื่อกลบผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มที่มีกับประเทศเพื่อนบ้าน หากกระทรวงการต่างประเทศทำได้เท่านี้ แล้วชี้แจงว่าเรื่องอื่นเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม คาดว่านายกรัฐมนตรี คงต้องลงมาสั่งการเอง และนายกฯ จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่อประเด็นดังกล่าวว่าไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแสดงความเข้มแข็งเพื่อให้ประเทศเพื่อนบ้านเกรงใจ หากหน่วยงานภาครัฐยังต่างคิดต่างทำ ขอให้นายกฯ อย่านิ่งเฉย ต้องสั่งการให้หน่วยงานไทยภายใต้บังคับบัญชาทำงานเชิงรุกมากกว่านี้