รองประธานคณะ กมธ. การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน คนที่สอง รับยื่นหนังสือร้องเรียนธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากบกพร่องต่อหน้าที่ความรับผิดชอบกรณีไม่สามารถกำกับดูแลสถาบันการเงินธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งปิดช่องโหว่มิจฉาชีพออนไลน์ พร้อมขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพานิชย์ทุกแห่งรับผิดชอบความเสียหายต่อประชาชน

วันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายวรภพ วิริยะโรจน์รองประธานคณะ กมธ. การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน คนที่สอง รับยื่นหนังสือจาก นายพงศ์ประพันธ์ นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้เสียหายจากแกงค์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อร้องเรียนธนาคารแห่งประเทศไทยที่บกพร่องต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ สืบเนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศให้ทุกธนาคารต้องเร่งปิดช่องโหว่มิจฉาชีพออนไลน์ภายใน 1 เดือน หากไม่สามารถทำได้ตามกำหนดธนาคารต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน แต่ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคารไม่สามารถปิดช่องโหว่เพื่อป้องกันความเสียหายจากมิจฉาชีพออนไลน์ได้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนกว่า 7.95 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยบกพร่องต่อหน้าที่ในฐานะที่กำกับดูแลสถาบันการเงินธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งในประเทศไทย การที่ไม่สามารถปิดช่องโหว่มิจฉาชีพในรูปแบบออนไลน์ได้เป็นสาเหตุสำคัญของความเสียหายต่อประชาชนและสถานะการเงินของประเทศอย่างร้ายแรง จึงขอเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยแสดงความรับผิดชอบ ดังนี้
1. ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และ ธนาคารพานิชย์ทุกแห่ง รับผิดชอบความเสียหายต่อประชาชนเต็มจำนวน และติดตามเส้นทางการเงินผู้เสียหายจนถึงการเข้าระบบ Cryptocurrency โดยเร็ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทำสำนวนคดีส่งฟ้องฟ้องศาลได้โดยเร็ว
2. ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดต่อการกระทำผิดโดยเจตนา เช่น สาขาธนาคารรับจ้างเปิดบัญชีม้า พนักงานธนาคารขายข้อมูลลูกค้าแก่มิจฉาชีพ และให้กำหนดบทลงโทษอย่างรุนแรง รวดเร็ว และทำการแจ้งการกระทำความผิดนั้นอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน
3. ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย พัฒนาระบบการแจ้งเตือนเจ้าของบัญชี ผู้ใช้บริการธนาคารในการโอนเงินที่ผิดปกติ พร้อมพัฒนาระบบการชะลอการโอนเงินที่น่าสงสัย ของผู้ใช้บริการพร้อมการติดต่อต่อทักท้วงเจ้าของบัญชี เพื่อลดปัญหาความล่าช้าในการอายัดเงิน
4. ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ยกเลิกระบบการเปิดบัญชีออนไลน์ ตลอดจนกำกับดูแลเส้นทางการเงินที่สงสัยว่าเป็นธุรกรรมของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะจากสาขาธนาคารจากชายแดน และกำกับดูแลการโอนเงินที่ สงสัยว่าเป็นของมิจฉาชีพออกนอกราชอาณาจักรไทย
 
ด้านนายวรภพ วิริยะโรจน์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกมธ. พร้อมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและสร้างเสริมให้กระบวนการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น